หุ้นไทยวันนี้ (2 กันยายน) ดัชนีเคลื่อนไหวค่อนข้างหวือหวา โดยเฉพาะช่วงการซื้อขายภาคบ่ายที่อยู่ๆ ราคาหุ้นหลายตัวปรับขึ้นร้อนแรง ดันให้ดัชนี SET พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,652 จุด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 22 เดือน (4 พฤศจิกายน 2562) ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อย มาปิดตลาดที่ระดับ 1,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.27 จุด หรือ 0.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 101,413.06 ล้านบาท
สำหรับหุ้น 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- DELTA ปิดที่ 726 บาท เพิ่มขึ้น 70 บาท หรือ +10.67% มูลค่าการซื้อขาย 5,880.67 ล้านบาท
- CPALL ปิดที่ 64 บาท ลดลง 1 บาท หรือ -1.54% มูลค่าการซื้อขาย 3,487.37 ล้านบาท
- CV ปิดที่ 3.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ +0.51% มูลค่าการซื้อขาย 3,372.59 ล้านบาท
- GULF ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.60% มูลค่าการซื้อขาย 3,048.64 ล้านบาท
- ADVANC ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.34% มูลค่าการซื้อขาย 3,044.06 ล้านบาท
ทั้งนี้ หุ้น CV หรือ บมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์ เป็นหุ้น IPO ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้เป็นวันแรก ด้วยราคา IPO ที่ 3.90 บาทต่อหุ้น
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้ กระจุกอยู่ในหุ้นไม่กี่ตัว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีข่าวดีเฉพาะตัว และหุ้นที่มีผลต่อการคำนวณดัชนี SET เช่น หุ้น DELTA ที่วันนี้มีส่วนผลักดันดัชนีหุ้นไทยถึง 7 จุด
ส่วนแนวโน้มหุ้นไทยระยะข้างหน้ามองว่าเริ่มมีอัปไซด์น้อยลง หลังจากที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวในรอบนี้ที่ 1,650-1,660 จุด ส่วนปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อหุ้นไทยในช่วงนี้คือ เม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวอาจไม่ช่วยผลักดันดัชนีได้ในระยะกลาง ขณะที่ปัจจัยกดดันยังมีเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ซึ่งนักลงทุนรับรู้กันอยู่แล้วว่าจะออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากในไตรมาส 3/2564 ประเทศไทยประกาศล็อกดาวน์จังหวัดสำคัญและจำกัดเวลาเดินทางเป็นเวลานานถึง 2 เดือน
“คำแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นอยู่และปล่อย Let Profit Run มาระยะหนึ่งแล้ว ควรจะปรับพอร์ตโดยลดการลงทุนในหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อรอเข้าลงทุนอีกครั้งเมื่อดัชนีพักฐาน ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่ได้ลงทุน แนะนำให้รอช่วงดัชนีปรับฐานอีกครั้ง โดยมองว่ามีโอกาสที่ดัชนีจะย่อลงมาที่ 1,600 จุดอีกรอบ”
ด้าน ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า เชื่อว่าจะปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด เนื่องจากในสัปดาห์หน้า หุ้นใหญ่หลายบริษัทจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อกำหนดสิทธิการจ่ายเงินปันผล ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นที่ย่อตัวลง
ขณะเดียวกัน ปัจจัยเรื่องผู้ติดเชื้อรายวันและการเปิดเมืองอีกครั้งจะเป็นแรงกดดันหุ้นในสัปดาห์หน้า โดยต้องจับตาวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ที่ผู้คนน่าจะเริ่มทำกิจกรรมนอกบ้านอีกครั้ง ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในช่วงกลางสัปดาห์หน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกระลอก และจะกดดันต่อหุ้นธีมเปิดเมือง เช่น กลุ่มแบงก์ กลุ่มค้าปลีก และฉุดให้ดัชนีปรับฐานลงอีกครั้ง
