เชื่อว่าพรปีใหม่ก่อนก้าวเข้าสู่ปี 2564 ของทุกคนคืออยากให้ประเทศไทยพ้นจากสถานการณ์โควิดไปสักที แต่เหมือนโชคชะตายังอยากทดสอบความอดทนของคนไทยอยู่ จึงมีการระบาดครั้งใหม่อีกหลายระลอกส่งผลกระทบในแทบทุกวงการ รวมถึงละครทีวีไทยที่มีอันต้องหยุดพักกองถ่าย ละครล็อตใหม่ที่คาดว่าจะออกอากาศในปีนี้ก็มีอันต้องเลื่อนออกไป จนเรียกได้ว่าเป็นปีที่ ‘แห้งแล้ง’ สำหรับแวดวงละครก็คงไม่ผิด
ถ้าปีที่แล้วเป็นปีแห่งการปรับตัว ปีนี้ก็คงเป็นปีแห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรค แม้ออกจะเนือยๆ ไปบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องตื่นเต้นเอาเสียเลย เราจึงได้เห็นปรากฏการณ์บางช่องทีวีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่บางช่องค่อนข้างน่าผิดหวัง มีละครยอดแย่แต่ได้กระแสในโลกโซเชียลไปเต็มๆ เทรนด์ละครใหม่ที่มีให้ดูจนตาแฉะ และการปรับตัวจากศัตรูสู่มิตรของช่องทีวีกับบริการสตรีมมิงต่างๆ
ปีนี้ช่องทีวีทำผลงานได้ดีแค่ไหน?
ภาพรวมของละครไทยปีนี้ยังวนเวียนอยู่ที่การ ‘รีรัน’ และ ‘รีเมก’ ช่องทีวีเจ้าใหญ่อย่างช่อง 7 โกยเรตติ้งเป็นกอบเป็นกำได้จากละครบู๊ และยังเป็นเจ้าแม่เรตติ้งเหมือนเคย ซึ่งปีนี้เราไ้ด้ชิมรสชาติใหม่ๆ จากละครช่อง 7 อย่างเรื่อง หลงกลิ่นจันทน์ ที่ได้เสียงชื่นชมในแง่ความสมจริงและใส่ใจในรายละเอียด แม้เรตติ้งจะไม่ฟู่ฟ่าแต่ก็ทำให้รู้ว่าละครช่อง 7 ก็พัฒนาตัวเองให้ครองใจคนดูทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่นเดียวกับ แม่เบี้ย ละครรีเมกที่ถูกนำมาตีความใหม่ให้กลายเป็นเรื่องรักต้องห้าม พร้อมทั้งใส่ประเด็นเรื่องครอบครัวเข้าไป จนทำให้คว้าเรตติ้งตอนจบไปได้ถึงเลข 6 และเสียงชื่นชมจากคนดู
ภาพจาก แม่เบี้ย
ภาพจาก หลงกลิ่นจันทน์
ภาพจาก มนต์รักหนองผักกะแยง
ขณะที่ช่อง 3 ค่อนข้างเจ็บตัวเพราะยิงละครพลาดเป้าไปหลายดอก ไม่ว่าจะเป็น สองเสน่หา ที่คาดว่าการพลิกมารับบทร้ายของ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส จะกอบกู้เรตติ้งขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง ขณะที่การกลับมาของ เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพัน ใน รัก นิรันดร์ จันทรา ก็ทำเรตติ้งไปแบบเนือยๆ ส่วน ดวงตาที่ 3 ที่ได้ดาราแม่เหล็กอย่าง เจมส์ มาร์ และ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน ก็จบไปแบบเหงาๆ จนกระทั่งถึงละครปิดท้ายปลายปีอย่าง กะรัตรัก กับการกลับมาแสดงละครในรอบ 5 ปี ของ แอน ทองประสม ก็ยังคงทำให้เรตติ้งของช่องไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ยังได้ผู้ชมในแพลตฟอร์มออนไลน์มาทำให้ชุ่มชื่นหัวใจอยู่บ้าง อย่างไรก็ดี ปีนี้ช่อง 3 ยังมีผลงานที่โดดเด่นจาก มนต์รักหนองผักกะแยง รวมทั้งละครนอกสายตาอย่าง แค้นรักสลับชะตา ละครน้ำดีดูสนุก และ เมียจำเป็น ที่ ‘เผลอดัง’ เพราะกระแสโจมตีเรื่องฉากการใช้ความรุนแรง และการกล่าวโทษเหยื่อทางเพศเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ด่าแต่ดูของละครไทย
ภาพจาก สองเสน่หา
ภาพจาก รัก นิรันดร์ จันทรา
ส่วนช่อง One31 มาแนวพูดน้อยต่อยหนัก เพราะมีละครใหม่ออกมาไม่มาก แต่ก็โดนใจผู้ชมเต็มๆ ไปถึงสองเรื่องคือ วันทอง ที่นำเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน มาตีความใหม่ เล่าผ่านมุมมองของผู้หญิงที่ชื่อ วันทอง ผู้ถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีมาตลอด คว้าเรตติ้งตอนจบในกรุงเทพฯ ถึงระดับเลข 9 ตามมาด้วย กระเช้าสีดา ละครกระแสดีแม้มีอันต้องหยุดออกอากาศเพราะการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในละครที่ประสบความสำเร็จที่สุดของปีนี้ พร้อมทั้งแจ้งเกิด ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ในฐานะสามีแห่งชาติคนล่าสุด
ภาพจาก วันทอง
ภาพจาก กระเช้าสีดา
อีกช่องที่น่าจับตาก็คือช่อง 8 ที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงด้วยการดึงนักแสดงเบอร์ใหญ่ไปร่วมงานจากผังละครเมื่อปลายปีที่แล้ว แม้ต้นปีจะค่อนข้างผิดหวังกับ เรยา ละครภาคจบตระกูลดอกส้ม แต่ก็กู้หน้ากู้ตากลับมาได้จาก เรือนร่มงิ้ว ทำเรตติ้งขึ้นสู่เลข 2 และผู้ชมทางออนไลน์หลักล้านคน ซึ่งนับเป็นละครที่มียอดคนดูสูงที่สุดของช่องเลยทีเดียว
ภาพจาก เรือนร่มงิ้ว
ละครรักต่างวัยเมื่ออายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ
กลายเป็นเทรนด์ฮิตของละครไทย สำหรับเรื่องรักโรแมนติกของผู้หญิงอายุมากกว่ากับหนุ่มรุ่นน้อง ที่มีให้ดูกันจนตาแฉะตั้งแต่ รักใช่ไหมที่หัวใจต้องการ, ให้รักพิพากษา, พฤษภา ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน และ กะรัตรัก ซึ่งใช้ความแตกต่างของวัยมาเป็นประเด็นหลักของเรื่อง นอกจากนี้ยังมีบางเรื่องที่ตัวละครหญิงอายุมากกว่าผู้ชายแม้จะไม่ใช่ประเด็นหลัก อย่างเช่น กระเช้าสีดา เป็นต้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องไหนประสบความสำเร็จถึงขั้นเป็นละครฮิต แต่ก็ดูเหมือนผู้จัดหลายๆ ช่องต่างเดินตามเทรนด์นี้กันต่อไป สังเกตได้อีกหลายๆ โปรเจกต์ที่กำลังจะสร้างอย่าง เข็มซ่อนปลาย มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทั้งในแง่รสชาติละครใหม่ๆ และมุมมองของสังคมต่อเรื่องรักต่างวัยที่อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
ภาพจาก กะรัตรัก
ไอสะคึยี้ยูให้แหลกคึ! ปรากฏการณ์โหลละครดองแตกแห่งปี
เมื่อมีเหตุให้ต้องพักกองถ่ายทำให้หลายช่องเริ่มหันกลับไปมองละครเก่าที่เก็บเอาไว้ในสต๊อกแล้วนำมาออกอากาศ โดยเฉพาะช่อง 3 ที่เหมือนจะมีละครในสต๊อกมากกว่าช่องอื่นๆ จึงเทโหลละครดองมาออกอากาศในช่วงละครค่ำหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่ ปาฏิหาริย์รักแม่โพสพ, อีสาวอันตราย, สุดร้ายสุดรัก ฯลฯ ส่วนที่ประสบความสำเร็จไปอย่างไม่น่าเชื่อก็คือ นางฟ้าอสูร ผลงานเรื่องสุดท้ายของ เปี๊ยก-พิศาล อัครเศรณี ที่ทำเรตติ้งไปถึงถึงระดับเลข 5 ทีเดียว
ส่วน PPTV ก็สร้างปรากฏการณ์ด้วยการนำละครดอง 5 ปีเรื่อง ธิดาซาตาน มาออกอากาศ และโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณภาพแบบสับเละ จนกลายเป็นละครตลกแห่งปี มีการทำมีมและคลิปจากในเรื่องมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลจนทำให้ละครเรื่องนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งไปเสียอย่างนั้น สร้างปรากฏการณ์ยิ่งด่ายิ่งดังของละครไทยไปอีกหนึ่งเรื่อง
ซีรีส์วาย ‘พระเอกและนายเอก’ แห่งวงการบันเทิงไทย
ซีรีส์วายยังแรงดีไม่มีตก แถมช่องเก่าแก่อย่างช่อง 3 ก็ขอลงสนามนี้แบบเต็มตัวในช่วงเวลาละครดึกจนประสบความสำเร็จอย่างสูงจากเรื่อง นับสิบจะจูบ ที่คว้าใจทั้งสาววายชาวไทยและยังติดอันดับซีรีส์ยอดนิยมในต่างประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน ฯลฯ ในขณะที่ค่ายเจ้าพ่อซีรีส์วายอย่าง GMMTV ก็ทำผลงานได้น่าประทับจากซีรีส์วายกลิ่นอายละครไทยอย่าง นิทานพันดาว และเรื่องล่าสุดส่งท้ายปลายปีอย่าง แค่เพื่อนครับเพื่อน ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง ส่วนซีรีส์ภาคต่อ แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2 ก็พัฒนาจากซีรีส์วายในพาร์ตแรกมาพูดเรื่องชีวิตรักหนักๆ เล่นเอาแฟนๆ ใจหายใจคว่ำในช่วงต้น ก่อนจะจบอย่างประทับใจในตอนท้ายก็กลายเป็นอีกหนึ่งอรรถรสของซีรีส์วายประจำปีนี้
ภาพจาก นับสิบจะจูบ
ภาพจาก แค่เพื่อนครับเพื่อน
จากศัตรูสู่มิตรระหว่างช่องทีวีและบริการสตรีมมิง
ปีนี้เป็นปีที่ได้เห็นการปรับตัวของช่องทีวีใหญ่ๆ ในการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับบริการสตรีมมิงระดับโลก จากที่เคยคิดว่าจะแย่งความสนใจจากคนดูไปก็กลายเป็นพันธมิตรขยายฐานคนดูทั้งในไทยและต่างประเทศไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นช่อง One31 และ GMMTV ซึ่งเป็นเจ้าแรกๆ และช่อง 3 ที่เริ่มผลักดันละครเข้าไปสู่บริการสตรีมมิงเจ้าใหญ่ๆ ทั้ง WeTV Viu และ Netflix อีกทั้งปีนี้ประเทศไทยยังต้อนรับบริการสตรีมมิงเจ้าใหญ่คือ Disney+ Hotstar ซึ่งล่าสุด 55:15 Never Too Late ของ GMMTV ก็เข้าไปสตรีมที่เจ้านี้ก่อนออนแอร์ในช่อง ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจที่เราอาจจะได้เห็นละครหรือซีรีส์เรื่องอื่นๆ ทำตามในอนาคต
ภาพจาก Bangkok Breaking
และปีนี้ก็มีออริจินัลคอนเทนต์จากผู้ผลิตของไทยหลายเจ้าเข้าไปใช้ช่องทางสตรีมมิงในการเผยแพร่ผลงาน เช่น อิน จัน (Eng and Chang: Till Death Tear Us Apart) จากความร่วมมือระหว่างกันตนากับทรู ออริจินัล ก็กลายเป็นออริจินัลคอนเทนต์ไทยเรื่องแรกใน Disney+ Hotstar ส่วนทางฝั่งของ Netflix ปีนี้เราก็ได้ดู Netflix Original Thai Series เรื่องที่ 2 ต่อจาก เคว้ง นั่นก็คือ Bangkok Breaking ซึ่งระดับความนิยมก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร ขณะที่ เด็กใหม่ 2 ถือว่าไปได้ดี เพราะแนนโน๊ะไต่อันดับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก แม้จะถูกค่อนแคะว่าบทเดาได้คล้ายรายการ ฟ้ามีตา ทางช่อง 7 ไปเสียอย่างนั้น
ภาพจาก อิน จัน (Eng and Chang: Till Death Tear Us Apart)
ภาพจาก เด็กใหม่ 2
ขณะที่ภาพยนตร์ไทยที่สตรีมใน Netflix อย่าง Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี ก็ถูกวิจารณ์ไปในทางไม่ดีนัก เช่นเดียวกับ The Whole Truth ปริศนารูหลอน ที่ยังไม่ค่อยถูกใจผู้ชมชาวไทย แต่กลับติดอันดับ 2 ภาพยนตร์ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษที่คนดูมากที่สุดใน Netflix เมื่อช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ภาพจาก The Whole Truth ปริศนารูหลอน
ลาทีปีเก่า ขอต้อนรับปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวัง สำหรับผู้เขียน พรสำหรับปี 2565 ยังเหมือนเดิม คือขอให้สถานการณ์ร้ายๆ ผ่านไปเสียที เพราะอยากใช้ชีวิตให้เต็มที่ หัวเราะให้เต็มเสียงแล้ว ก็หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ความหวังนี้จะเป็นจริง สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ
อ้างอิง: