×

เสรีหารือ กกต. หุ้นสื่อ ITV ขอเร่งดำเนินการ ยันไม่มีใครซื้อเสียง ส.ว. ได้ บอกพิธาเสนอไม่นำปมแก้ ม.112 พิจารณาโหวตนายกฯ สะท้อนขาดวุฒิภาวะผู้นำ

โดย THE STANDARD TEAM
28.06.2023
  • LOADING...
เสรี สุวรรณภานนท์

วันนี้ (28 มิถุนายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับ กกต. นานกว่า 2 ชั่วโมง ว่าทางกรรมาธิการมาหารือกับทาง กกต. เนื่องจากเคยนัดไว้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ทาง กกต. ติดภารกิจ จึงเลื่อนมาเป็นวันนี้ ซึ่งเรื่องที่มาหารือเป็นเรื่องที่ทางกรรมาธิการกำลังพิจารณารวบรวมปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ กกต. 

 

เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้สุจริตเที่ยงธรรม มีหลายเรื่องที่หารือร่วมกัน และก็ได้นำข้อมูลในกรรมาธิการที่ได้มีการตรวจสอบและข้อมูลที่ปรากฏในสื่อบางส่วน รวมถึงเอกสารที่ได้ขอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มามอบให้กับทาง กกต. ด้วย เพื่อนำไปพิจารณาประกอบกับเรื่องที่ กกต. กำลังดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อยู่ 

 

เมื่อถามว่าข้อมูลเพิ่มเติมเป็นอะไรบ้าง เสรีกล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในคดีความยื่นร้องจัดการมรดกเดิม ส่วนที่เป็นทรัพย์มรดก เป็นทรัพย์สิน ที่ดิน ที่มีการจัดการโอนทรัพย์มรดกนี้ไปตั้งแต่ปี 2560 เพื่อที่จะเทียบว่าการจัดการมรดกรายนี้ไม่ใช่ว่ายังค้างคาไม่เสร็จ แต่เป็นการจัดการมรดกเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเทียบให้เห็นว่าการถือหุ้นสื่อ ITV ปัจจุบันนี้เป็นการถือหุ้นโดยฐานะทายาท หรือผู้จัดการมรดก หรือในฐานะที่ได้รับมรดกมาแล้ว 

 

เสรีกล่าวว่า เป็นการส่งหลักฐานให้เห็นเพื่อเทียบเคียงถึงการจัดการมรดก และได้เรียนต่อ กกต. ขอให้ กกต. ใช้อำนาจหน้าที่หรือดุลยพินิจดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมหรือข้อถกเถียงในทางการเมืองที่ไม่อยากให้มีเรื่องอื่นๆ แทรกแซงเข้ามา อยากให้ยุติโดยเร็ว

 

เมื่อถามว่า กกต. ได้แจ้งเรื่องระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เสรีกล่าวว่า มี 2 ส่วน คือส่วนที่ทำไปก่อนการประกาศรับรองผล กกต. ได้สืบสวนไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และอีกส่วนคือหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง แล้วก็จะดูว่าส่วนไหนเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. หรือความปรากฏของ กกต. อย่างไร ซึ่งก็คงใช้อำนาจหน้าที่ของท่านในช่วงนี้

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการซื้อเสียง ส.ว. ให้โหวตนายกรัฐมนตรีนั้น เสรีกล่าวว่า มันเป็นแค่ข่าว ส่วนตัวเชื่อว่าคงไม่มีใครมาลงทุนเรื่องแบบนี้กับ ส.ว. ได้ ซึ่งการจะทำอะไรในลักษณะดังกล่าวในปัจจุบันไม่สามารถที่จะปิดบังได้ โดยเฉพาะสมัยนี้มีเทคโนโลยีทั้งถ่ายภาพคลิปวิดีโอเสียงไว้เป็นหลักฐาน แล้วมองว่าหากใครคิดจะทำเป็นการคิดที่ผิด และมั่นใจว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะ ส.ว. ทุกคนไม่น่าจะซื้อได้ ส่วนการโหวตว่าจะเลือกใครเป็นดุลยพินิจรายบุคคลที่จะโหวตหรือไม่โหวตให้ อยู่ที่เหตุผล ตรงไปตรงมา 

 

เสรียังระบุถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ระบุว่า ส.ว. ไม่ควรนำมาตรา 112 มาเป็นข้ออ้างไม่โหวตนายกรัฐมนตรี 

 

“เสนอแค่นี้ก็ขาดวุฒิภาวะแล้ว เพราะสิ่งที่เสนอมายอมรับว่าจะกระทบกับสถาบันฯ แต่ไม่ควรเอาประชาชนมาให้เกิดการปะทะกัน การจะเป็นผู้นำประเทศจะต้องเสนออะไรที่สร้างสรรค์ และไม่เกิดปัญหาความเห็นที่แตกต่าง แค่เสนอแค่นี้ผมว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งที่เห็นว่าวุฒิภาวะอย่างที่พยายามพูดกันอยู่ตลอดต้องดูให้ดีแล้ว” เสรีกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X