×

เสรีพิศุทธ์ ให้ทนายสอบการเงินสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ของศรีสุวรรณ อาจยื่นศาลขอเพิกถอนสมาคม

โดย THE STANDARD TEAM
10.09.2021
  • LOADING...
ศรีสุวรรณ จรรยา

วันนี้ (10 กันยายน) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำหลักฐานมายื่นฟ้อง ศรีสุวรรณ จรรยา อุปนายกและเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท 

 

อนันต์ชัยกล่าวว่า วันนี้ตนได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ให้นำหลักฐานที่ศรีสุวรรณไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ผ่านมา ให้สอบจริยธรรมร้ายแรง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เมื่อวันที่ 3-5 สิงหาคม โดยกล่าวหาว่าทิ้งหิน ดิน ล่วงล้ำลำน้ำแควน้อยเกินกว่าแนวเขตที่ดินของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ซึ่งศรีสุวรรณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องส่วนบุคคล 

 

อนันต์ชัยกล่าวว่า ประเด็นแรกศรีสุรรณกล่าวหาว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ผิดจริยธรรมร้ายแรง คือมาตรฐานจริยธรรม พ.ศ. 2561 ข้อ 7 ต้องถือผลประโยชน์ประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ข้อ 11 ไม่กระทำการอันเป็นการขัดขวางระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าทางตรงหรืออ้อม และข้อ 27 เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงในวรรคที่ 2 คนที่จะกระทำความผิดฐานนี้ได้ต้องเป็นนักการเมืองในขณะนั้น 

 

แต่ศรีสุวรรณไม่ได้ดูว่าที่ดินแปลงที่พิพาทที่มีการกล่าวหาว่ารุกล้ำลำน้ำหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ซื้อที่ดินดังกล่าวมาเมื่อปี 2535 มีการถมหินในปี 2544 แล้วมีการออกโฉนดเมื่อปี 2549 หลังจากนั้นได้โอนที่ดินให้กับลูกๆ ในปี 2557 ซึ่ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ไม่ได้เป็นเจ้าของที่แล้ว แล้วจะผิดจริยธรรมได้อย่างไร ส่วนจะรุกล้ำหรือไม่นั้นก็ต้องไปตรวจสอบกัน

 

“ดังนั้นการที่ศรีสุวรรณมายื่นคือความเท็จ เพราะที่ดินเป็นของลูก พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ แล้ว พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์เป็นนักการเมืองเต็มตัวเมื่อปี 2562 ศรีสุวรรณมาร้องได้อย่างไร ไม่ได้ตรวจสอบเลยหรือว่าหลักฐานเป็นอย่างไร แล้วการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของ ปารีณา ไกรคุปต์ ไม่ได้ เพราะในกรณี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เขามีโฉนดที่ดิน ส่วนกรณีปารีณาเป็นที่ดิน ภ.บ.ท. 5 ที่ป่าสงวนแห่งชาติ บางส่วนเป็นที่ ส.ป.ก. จึงเทียบกันไม่ได้ และการครอบครองก็ไม่เหมือนกัน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ครอบครองถึงปี 2557 เมื่อเกษียณก็ยกให้ลูก ไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนปารีณาครอบครองมาจนกระทั่งเป็นนักการเมือง ดังนั้นประเด็นการยื่นสอบจริยธรรมจึงไม่เข้าองค์ประกอบ การที่ศรีสุวรรณไปยื่นสอบทำให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เสียหาย” อนันต์ชัยกล่าว

 

อนันต์ชัยกล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่สองเรื่องรุกล้ำลำน้ำ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ซื้อที่ดินมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งในขณะนั้นเป็นที่ดิน น.ส.3 ซึ่งในช่วงปี 2527 มีการเปิดใช้เขื่อนเขาแหลม เปิดน้ำช่วงเช้า-เย็น ทำให้เกิดคุ้งน้ำแล้วเซาะเข้าไป ต้นไม้ล้ม พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์จึงแจ้งกับกรมเจ้าท่าว่าจะขอถมที่ในส่วนที่น้ำเซาะเข้าได้หรือไม่ กรมเจ้าท่าจึงเข้ามาวางแนวและถมหินตามนั้น จนในปี 2549-2550 มีการรังวัดโฉนด เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าและสำนักงานที่ดินเข้าไปชี้เขตก็ไม่มีปัญหา ไม่มีการคัดค้าน แต่เมื่อปี 2551 พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์โดนปลดจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีผู้ไม่ประสงค์ดี ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ถมหินรุกล้ำลำน้ำ และมีการตั้งคณะกรรมการสอบขึ้นมา ซึ่งผลออกมาว่าทุกอย่างถูกต้องหมด จึงยกไป ต่อมาในปี 2551 กรมเจ้าท่าคนใหม่เข้ามาตรวจสอบ แล้วบอกว่ารุกล้ำ และให้รื้อภายใน 30 วัน 

 

อนันต์ชัยกล่าวต่อไปว่า ขณะนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็อุทธรณ์ไปยังปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกยก จึงฟ้องไปยังศาลปกครอง และถูกตัดสินว่ารุกล้ำจึงรื้อถอน และระหว่างนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ก็ถูกฟ้องคดีอาญา ซึ่งพนักงานสอบสวนและอัยการสั่งไม่ฟ้อง เสร็จสิ้นคดีปี 2556 คือขาดเจตนา ซึ่งคดีนี้แยกเป็นสองส่วนคือคดีแพ่งและอาญา โดยคดีอาญาขาดเจตนา ถือว่าจบแล้ว ส่วนคดีแพ่งก็ว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งกระบวนการรื้อถอนไม่ใช่ง่ายๆ เพราะการถมที่ใครจะเป็นคนออกค่ารื้อถอน แล้วจากตรงไหนถึงจุดไหน แต่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินแล้ว การที่ศรีสุวรรณจะไปยื่นสอบจริยธรรม คือไม่ดูตาม้าตาเรือเลยหรือ ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ และการที่ศรีสุวรรณระบุว่าจะฟ้องกลับ ตนไม่สนใจ เพราะประเด็นอยู่ที่ว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้เป็นนักการเมืองในขณะนั้น จะสอบจริยธรรมได้อย่างไร ส่วนกรณีนี้ค่อยว่ากันในคดีอาญา คดีแพ่ง ว่าไปตามกระบวนการ

 

“อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับสมาคมของศรีสุวรรณตั้งมาเพื่ออะไร เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แต่ผมไม่เห็นเขาจะพิทักษ์รัฐธรรมนูญตรงไหน ขณะนี้เขาก็กำลังแก้กันอยู่ ไม่เห็นคุณจะว่าอะไร แล้วรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็เห็นคนค้านว่าไม่ยุติธรรม ไม่ถูกต้อง ก็ไม่เห็นคุณว่าอะไร แต่ผมเห็นคุณร้องไปทั่ว แถวบ้านผมเรียกไอ้ลูกช่างฟ้อง เอาแต่เรื่องชาวบ้านไปฟ้อง ล่าสุดเอาเรื่องพระมหาสมปอง พระมหาไพรวัลย์ ท่านเป็นพระ เกี่ยวอะไรกับสมาคมของคุณ ผมว่าสมาคมนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมองค์การร้องเรียนชาวบ้าน ในเมื่อเขาชอบฟ้อง เราเลยมาฟ้อง ลากเขามาขึ้นศาล เก่งนักก็มาเจอกันที่ศาล เอาพยานหลักฐานมา ของจริงไม่ใช่ของปลอม และก่อนที่จะร้องอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน คุณต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อกฎหมายให้มันดีเสียก่อน” อนันต์ชัยกล่าว

 

อนันต์ชัยกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ได้มอบหมายให้ตนตรวจสอบสมาคมนี้ ว่าศรีสุวรรณได้เงินมาจากไหน เสียภาษีหรือไม่ แล้วศรีสุวรรณร้องไปทั่วโดยอาศัยสมาคมนี้ มันเข้าข่ายหรือไม่ เราอาจมีการยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีการเพิกถอนสมาคมนี้ในลำดับต่อไป ดังนั้นวันนี้เรามาด้วยข้อเท็จจริง ไม่ได้มาเพื่อปิดปากเขา อย่างที่เขาโพสต์

 

ทั้งนี้ ภายหลังยื่นฟ้อง อนันต์ชัยเปิดเผยว่า ศาลได้รับคำฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 2193/64 และนัดไต่สวนมูลฟ้องเพื่อมีคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 17 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น.

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X