วันนี้ (30 ตุลาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งวันนี้จะเป็นการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ยืนยันว่าพรรคไม่เปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารแต่อย่างใด ตนเองยังคงเป็นหัวหน้าพรรคตามเดิม ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐก่อน มองว่าปัญหาของพรรคพลังประชารัฐไม่จบง่าย เพราะหากเป็นตนก็คงไม่ยอมหากโดนปลด และมองว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขาดความเป็นผู้นำ ภายในพรรคก็ไม่สามารถสร้างความรักความสามัคคีกันได้
“เรียนตรงๆ คุณประยุทธ์ขาดความเป็นผู้นำนะครับ แค่คนในพรรคยังสร้างความรักสามัคคีกันไม่ได้นะครับ แล้วก็จริงๆ แล้วเป็นคนนอกพรรคด้วย ได้พรรคอุ้มชูมาได้ เป็นที่รู้จัก บุญคุณของคนในพรรค กลับไปถอดถอนเขาอีก เหล่านี้นะครับ คนเขาบางทีบางครั้งอดีตมันไม่ดี แต่ปัจจุบันมันเปลี่ยนแปลงมันดีได้เหมือนองคุลีมาล” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย สนใจมาร่วมพรรคเสรีรวมไทยนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่ามีการติดต่อมาแล้ว แต่ศรัณย์วุฒิขอเวลาตัดสินใจในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ส่วนการเปิดตัวของ แพทองธาร ชินวัตร ของพรรคเพื่อไทย มองว่าเป็นเรื่องที่ดี พรรคเพื่อไทยมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์อยู่เรื่อยๆ ทำให้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนตัวไม่คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะปรับทัพขนาดนี้ ซึ่งการปรับทัพก็มองว่ามีทิศทางที่ดี เปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้าทำงาน ขณะที่พรรคเสรีรวมไทยก็ได้เริ่มปูทางแล้ว จุดเด่นของพรรคเสรีรวมไทยคือมีตนเองเป็นผู้ใหญ่ สามารถทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีคนรุ่นใหม่อย่างเพื่อไทยและก้าวไกลได้ ย้ำว่าในอนาคตจะไม่มีการรวมพรรคกับพรรคการเมืองอื่น แม้ว่ากติกาพรรคการเมืองอาจเปลี่ยนไปเป็นแบบใหม่
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวทิ้งท้าย กรณีถูก ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ยื่นฟ้องในคดีหมิ่นประมาท ยืนยันว่าไม่กังวล ที่ผ่านมาไพบูลย์ รวมทั้ง สิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ฟ้องตนหลายคดี แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และตนก็ฟ้องกลับเหมือนกัน