วันนี้ (8 มิถุนายน) นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 3/2563 พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ
โดยในที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยมีกรอบการดำเนินการครอบคลุมทั้งการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ โดยปรับรูปแบบให้เป็นสินทรัพย์เอกชน ลดภาพต้นทุนในการดูแล มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ปรับปรุงเส้นทางเดินรถไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้า เรือ เป็นต้น มีการพัฒนาพื้นที่เชิงธุรกิจโดยดึงภาคเอกชนร่วมลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ผลสัมฤทธิ์คาดหวังว่าในระยะยาวรัฐบาลจะไม่ต้องรับภาระหนี้ของ ขสมก. ลดปัญหาจราจรและมลพิษทางอากาศ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน และประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ขสมก. สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และองค์การจะสามารถเลี้ยงดูบุคลากรของตนเองได้ เพื่อให้พนักงานมีความภาคภูมิใจในหน่วยงานและเป็นองค์กรที่ยั่งยืน ทั้งนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาแผนฟื้นฟูและการบริหารจัดการหนี้อย่างละเอียดก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงแนวทางของรัฐบาลในการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยให้ยึดหลักการสำคัญ ได้แก่ มองประชาชนเป็นหลัก ลดภาระและสร้างความพึงพอใจในการใช้บริการ สามารถบริหารจัดการภาระหนี้สินได้โดยไม่กระทบหลักการงบประมาณ องค์การมีความสามารถในการชำระหนี้ เพิ่มความคล่องตัวในการจราจร เชื่อมโยงระบบคมนาคมทั้งรถ ราง เรือ และสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางของประชาชนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มเติมอุตสาหกรรมใหม่ๆ ภายในประเทศ เช่น การต่อรถ เป็นต้น ที่สำคัญต้องไม่ลืมดูแลลูกจ้าง พนักงาน และท้ายที่สุด สินทรัพย์ที่มีมูลค่าจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีภายใต้ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน
อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีย้ำในที่ประชุมถึงแนวทางทั้งหมดนี้ โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพขององค์กรและบุคลากร ความเป็นมืออาชีพ เพราะทุกการดำเนินการจะย้อนกลับไปสู่ประชาชนที่จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์