“สวัสดีครับ THE STANDARD POP ผมชื่อ ซอคังจุน ครับ”

ซอคังจุนซ้อมประโยคที่เตรียมมาอีกครั้ง ก่อนที่เราจะเริ่มสัมภาษณ์ เท่าที่เห็น นักแสดงวัย 26 ปี ที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาดูตั้งใจกับการทำงาน แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการถ่ายภาพหรือตอบคำถาม และที่เห็นได้ชัดเจนคือ ความเป็นคนที่สร้างพลังงานบวกให้กับคนรอบข้าง บรรยากาศวันนั้นจึงเป็นไปอย่างเป็นกันเอง และนั่นคงเป็นคำตอบได้อย่างดีว่าทำไมผู้ชายคนหนึ่งที่รักในการแสดง จึงตั้งใจอย่างมากเพื่อไปให้ถึงความฝัน และประสบความสำเร็จได้อย่างในวันนี้

ซอคังจุน นักแสดงฝีมือดีจากเกาหลีใต้ เดินทางมาจัดงานแฟนมีตติ้ง Seo Kang Jun Fan Meeting 2019 ‘To me, To you with Love’ ที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมสร้างความประทับใจให้แฟนๆ ชาวไทยไปเต็มๆ โดยหนึ่งวันก่อนหน้า THE STANDARD POP ได้สัมภาษณ์พิเศษ ซอคังจุน หลังงานแถลงข่าวที่โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ

ซอคังจุน เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1993 เริ่มต้นตามความฝันด้วยการเข้าเรียนด้านศิลปะการแสดงที่มหาวิทยาลัย Dong Seoul ทั้งยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มศิลปิน 5urprise เพื่อฝึกฝนด้านการร้องเพลงและงานแสดง ภายใต้สังกัด Fantagio ซึ่งเป็นต้นสังกัดเขามาจนถึงปัจจุบัน

ซอคังจุน ปรากฏตัวครั้งแรกในบทเล็กๆ จากซีรีส์เรื่อง To the Beautiful You (2012) ตามมาด้วยซีรีส์อีกหลายเรื่อง เช่น Cunning Single Lady (2014), What Happens to My Family? (2014) และเริ่มเป็นที่รู้จักจากรายการวาไรตี้ Roommate (2014-2015) ความโดดเด่นนำไปสู่ผลงานที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง กับการรับบทนักเปียโนในซีรีส์ Cheese in the Trap (2016) ที่เขาได้รับรางวัล Best Entertainer Award, Actor จากเวที Asia Artist Awards

ในปี 2018 ซอคังจุนรับบทนำในซีรีส์ Are You Human? ที่เขาต้องรับบทเป็นสองตัวละคร นัมชิน และหุ่นยนต์ AI นัมชินหมายเลข 3 รวมถึงผลงานล่าสุด ซีรีส์ The Third Charm ที่ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการทางการแสดงอย่างน่าสนใจจากบท อนจุนยอง ที่ไล่เรียงบทบาทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เป็นตำรวจ และทำงานเป็นเชฟ

ดูเหมือนว่าคุณมาแฟนมีตติ้งที่เมืองไทยเป็นครั้งที่ 3 แล้ว 2015, 2016, 2019 ยังจำครั้งแรกที่มาเมืองไทยได้ไหม ได้ไปที่ไหนมาบ้าง

ผมมางานแฟนมีตติ้ง 3 ครั้ง แต่จริงๆ มาเมืองไทยรวมแล้ว 4-5 ครั้งครับ ผมชอบข้าวผัด ปูผัดผงกะหรี่ก็ชอบ ผัดไทยก็ชอบ ตอนที่มาประเทศไทยครั้งแรก ตอนนั้นผมอายุประมาณ 14 ปี มาเที่ยวกับครอบครัว ผมจำได้ว่ามาเที่ยวแถวแม่น้ำด้วย ซึ่งผมว่าก็น่าจะเป็นแม่น้ำในกรุงเทพฯ ตรงนี้แหละครับ

ในแต่ละครั้งที่มาแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทย เป็นปีที่คุณมีผลงานซีรีส์ 2016 Cheese in the Trap, 2018 Are You Human? และครั้งนี้จากผลงาน The Third Charm ที่เพิ่งจบไป อยากให้เล่าถึงความประทับใจในซีรีส์เรื่องนี้สักหน่อย

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะดูแล้วอินไปด้วย เพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนทั่วๆ ไป คือคนเราไม่มีใครที่ดีมากพอ ทุกคนต่างไม่มีใครดีพออยู่แล้วน่ะครับ

The Third Charm เป็นเรื่องราวของคนที่เจริญเติบโต อย่างตอนแรกที่ได้เจอกับนางเอกตอนอายุ 20 ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร พอยิ่งโต จากที่เคยรักคนนี้ ก็มาเกลียดคนนี้ แล้วก็ให้อภัย พอหลังจาก 10 ปีผ่านไป ก็มาเจอกันอีก กลับมารัก หรือเกลียด หรือให้อภัยกันอีก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่คนเราน่าจะเคยเจอในชีวิตกันอยู่แล้ว

แล้วในซีรีส์เรื่องนี้มันจะมีความรักในทุกๆ ด้าน ทั้งความรักในครอบครัว ความรักเพื่อน และความรักแบบหนุ่มสาว ซึ่งมันก็เป็นชีวิตธรรมดาที่คนดูเข้าใจได้ ที่สำคัญคือตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ ไม่มีใครที่โดดเด่น หรือมีใครหล่อ ใครเท่กว่าใคร ทุกๆ คนโดดเด่นเท่าๆ กันหมด ซึ่งมันเป็นเหมือนชีวิตคนธรรมดาบนโลกนี้จริงๆ

ในซีรีส์ The Third Charm เราเห็นชัดว่าคุณตั้งใจกับตัวละคร ‘อนจุนยอง’ มากๆ เราเห็นการแสดงที่ละเอียด และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ อยากรู้ว่าคุณทำการบ้านกับงานแสดงแต่ละชิ้นอย่างไรบ้าง

โดยส่วนตัวเวลาศึกษาคาแรกเตอร์ตัวละคร ผมจะเรียนรู้เพิ่มเติมว่าคาแรกเตอร์นี้เติบโตมาอย่างไร แบ็กกราวด์เป็นอย่างไร คนรอบข้างเป็นอย่างไร ผมเรียนรู้ด้วยการอ่านบทบ่อยๆ แล้วส่วนตัวผมเป็นคนชอบจินตนาการ พอรู้แล้วว่าเด็กคนนี้มีสภาพแวดล้อมแบบนี้ มีเพื่อนแบบนี้ เป็นคนแบบนี้ ผมจะลองคิดว่าสีไหนเหมาะกับคนแบบนี้ อุณหภูมิแบบไหน หรือลองจินตนาการว่าถ้าบทนี้มันอยู่ในภาพนี้จะเป็นอย่างไร ผมจะคิดอยู่เรื่อยๆ แล้วก็อ่านบท อ่านแล้วอ่านอีก เพื่อทำความเข้าใจมันให้ดีที่สุด

ในซีรีส์ Cheese in the Trap คุณรับบทเป็นนักเปียโน ใน Are You Human? รับบทเป็นหุ่นยนต์ AI กับเรื่อง The Third Charm เป็นตัวละครที่เป็นทั้งเด็กนักเรียน ตำรวจ เชฟ เวลาคุณรับงานแสดง คุณมองหาความท้าทายอะไร

ผมไม่ค่อยมีปัญหากับอาชีพของบทที่ผมรับนะครับ อย่างที่บอกว่า ผมจะอ่านบทเยอะมาก แล้วพอได้แสดงจริงๆ ผมจะมีความรู้สึกว่าสนิทกับบทที่ผมเล่นมากขึ้นไปเรื่อยๆ ผมจะอินไปกับบทนั้นเลย โดยไม่ได้คิดว่าอาชีพของตัวละครคืออาชีพอะไร หรือเป็นความท้าทายอะไร เพราะผมจะอินกับคาแรกเตอร์นั้นมากกว่า

ว่ากันว่านักแสดงจะมีช่วงเวลาที่ค้นพบว่าตัวเองเข้าใจศาสตร์ของการแสดงและหลงรักมัน สำหรับคุณ โมเมนต์ไหนที่ทำให้คุณเข้าใจศาสตร์ของการแสดงเป็นครั้งแรก

ผมรู้สึกว่ารักงานนี้มากๆ ในตอนที่ผมท้อที่สุด และก็เหนื่อยที่สุด ปกติแล้วถ้าเราเจอสิ่งที่ทำให้เราเหนื่อยมากๆ ท้อมากๆ หรือเครียดมากๆ ทุกคนจะพยายามหนี แต่ผมพบว่า ตอนที่ท้อมากๆ ก็ไม่เป็นไร เหนื่อยก็ไม่เป็นไร และไม่ว่าอย่างไรผมจะไม่ปล่อยมือจากมัน

ความเครียด ความเหนื่อย ความท้อแท้ที่ผมมี ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมคิดจะทิ้งงานนี้ ผมรักงานแสดงมาก ผมรู้สึกได้ก็จากสิ่งนี้ ถึงมันจะมีปัญหา มีอุปสรรคเท่าไร ผมก็อยากจะเดินหน้าต่อไป

คุณเชื่อในเรื่องโชคชะตาไหม ความสำเร็จของคุณในทุกวันนี้เกิดจากอะไร

ผมเชื่อในโชคชะตานะครับ แต่ความหมายของโชคชะตามันค่อนข้างกว้างมาก การที่ผมต้องขยัน ต้องทำงานหนัก มันก็คือโชคชะตาของผม การที่ผมมีโอกาสได้มาทำงานตรงนี้ มันก็คือโชคชะตาของผมเหมือนกัน

คุณเพิ่งพูดถึงการเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะท้อแท้ขนาดไหน สำหรับใครที่กำลังสู้เพื่อความฝันอยู่ในตอนนี้ อยากบอกอะไรเขาบ้าง

ถ้าเรามีความฝันนั้น แล้วเดินหน้าต่อไป แต่ถ้าวันหนึ่งเรารู้สึกอยากยอมแพ้แล้ว คิดอย่างนั้นจริงๆ เราอาจจะต้องยอมแพ้ เพราะความฝันนั้นคงไม่ใช่ความฝันของเราจริงๆ ตัวผมเองโชคดีมากๆ ที่ได้ทำงานที่ผมรักและเคยฝันมาก่อน พอได้มาทำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้เจอจากการทำงานมันไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับผมเลย

คือโลกแห่งความจริงมันต้องมีอุปสรรคอยู่แล้ว ความเหนื่อย ความยากลำบากมันต้องมีอยู่แล้ว แต่ผมจะมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำในสิ่งที่ผมรักจริงๆ และเป็นความฝันของผม หวังว่าโลกแห่งความจริงของคุณที่กำลังเผชิญกันอยู่ มันจะไม่ทำให้คุณรู้สึกท้อแท้กับมันมากเกินไป

คุณเปิดอินสตาแกรม @seokj1012 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 โพสต์ทั้งหมด 17 รูป กับฟอลโลเวอร์ 2.5 ล้านคน ล่าสุดลงรูปแมว Oki กับ Doki อยากให้เล่าถึงชีวิตหลังจากที่มีแมวมาอยู่ด้วย มีความสุขอย่างไรบ้าง

ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะครับ พวกเขาก็แค่เป็นสมาชิกครอบครัวไปแล้ว (ยิ้ม) ผมรักมากๆ ตอนแรกมี 2 ตัว ชื่อ Oki กับ Doki แต่ตอนนี้มีอีกตัวแล้ว ชื่อ Kiki ด้วยความที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน เป็นพี่น้องกัน ผมเลยตั้งชื่อให้คล้องจองกัน อย่างแมวบ้านผมก็เป็นแมวตระกูล -Ki ผมชอบแมวมาก รักมาก แต่คิดว่ามี 3 ตัวก็พอแล้วครับ คงไม่มีเยอะกว่านี้แล้วแน่ๆ

ขอบคุณ Hatchery ประสานงานการสัมภาษณ์

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล