สภาหอการค้าเชื่อ ส.ว. พร้อมสนับสนุนตั้งรัฐบาลใหม่ให้ประเทศเดินหน้าต่อหากพรรคแกนนำสร้างความเข้าใจ มองหลายนโยบายตอบโจทย์ประเทศ-ทีมบริหารคนรุ่นใหม่น่าสนใจ พร้อมเผย 4 เรื่องที่ภาคเอกชนอยากให้เร่งผลักดัน
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้ามองผลการเลือกตั้งล่าสุดที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวและความต้องการของประชาชน ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ในการอยากเห็นรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารงานนับจากนี้
ขณะเดียวกันกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลก็มีความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยสามารถที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันกฎหมายที่สำคัญต่างๆ
สำหรับข้อกังวลของหลายส่วนที่มีต่อการรวมเสียงเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงนั้น หอการค้าเห็นว่า ในช่วงระหว่างนี้ยังสามารถรวบรวมเสียงจาก ส.ส. เข้ามาเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กระแสที่อยากให้ ส.ว. เข้ามาร่วมโหวตให้การสนับสนุนนั้น หอการค้ามองว่า หากพรรคแกนนำได้มีการนำเสนอประเด็นและหลักการให้มีความชัดเจน เน้นสร้างความเข้าใจเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เชื่อว่า ส.ว. จะมีการพิจารณาและให้การสนับสนุน ทำให้ในภาพรวมแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลยังเป็นไปในทิศทางที่ดี
ขณะที่มุมมองภาคธุรกิจปัจจุบันยังมีความรู้สึกไม่แน่นอนและไม่ชัดเจนว่าทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นอย่างไร สะท้อนได้จากทิศทางของตลาดหุ้นที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อผลการเลือกตั้ง นี่จึงเป็นความกังวลที่หอการค้าเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด
สำหรับนโยบายของว่าที่พรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคร่วมที่หลายฝ่ายได้รับทราบกันมาแล้วนั้น ส่วนหนึ่งเราได้เห็นภาพของนโยบายใหม่ๆ โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัย นโยบายด้านเศรษฐกิจปากท้อง การเพิ่มสวัสดิการประชาชน และนโยบายการศึกษา ที่มีความโดดเด่น และเชื่อว่าจะตอบโจทย์สถานการณ์ของประเทศที่กำลังต้องการแรงเสริม เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากกว่าที่คาดการณ์
ส่วนการวางตัวบุคลากรที่จะเข้ามาเป็นฝ่ายบริหารและทีมงานต่างๆ คิดว่ามีความน่าสนใจ และจะได้เห็นทีมบริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ ผสานกับบุคลากรที่มีประสบการณ์ทั้งในด้านการเมือง การบริหารธุรกิจ ของ 2 พรรคแกนนำ
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นหลังรัฐบาลสามารถจัดตั้งได้คือ
- การลดต้นทุนในภาคธุรกิจและการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำ
- นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟู SMEs และ Startup ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อ
- นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
- เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เกิดความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส
สนั่นระบุว่า การสำรวจความเห็นผู้ประกอบการของหอการค้าล่าสุดได้รับเสียงสะท้อนมาว่า การเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุนได้อย่างง่ายขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านเครดิตบูโรและเครดิตสกอริ่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อฟื้นฟูและขยายกิจการได้ และข้อเสนอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ให้มีความต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพ
ขณะที่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการขึ้นค่าแรง ซึ่งภาคธุรกิจยังเห็นว่าจำเป็นต้องใช้กลไกของคณะกรรมการไตรภาคีที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด เข้ามามีส่วนกำหนดค่าแรง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและไม่เป็นภาระด้านต้นทุนของภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังมีข้อกังวลถึงการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด โดยหากยืดเยื้อถึงเดือนสิงหาคมอาจกระทบต่อกระบวนการพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 ซึ่งจะทำให้การอนุมัติงบประมาณอาจลากยาว ส่งผลให้กว่าจะได้ใช้งบประมาณอาจจะถึงเดือนมีนาคมปีหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิด 8 ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงกว่า 8 ปีของ ‘รัฐบาลประยุทธ์’ สำเร็จ หรือ ล้มเหลว?
- งานวิจัยพบ นโยบายแก้หนี้ของพรรคการเมืองต่างๆ เสี่ยงก่อภาระทางการคลัง ห่วงบั่นทอนเสถียรภาพทำระบบเศรษฐกิจย่ำแย่
- ถอดรหัสค่าไฟแพง! ส่องวงจรกำหนดค่าไฟของประเทศไทย ใครรับบทอะไรบ้าง