×

สว. รวมพลังค้านร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เสี่ยงเปิดช่องขบวนการฟอกเงิน ย้ำควรทำประชามติ ฟังความเห็นสังคมก่อน

โดย THE STANDARD TEAM
08.04.2025
  • LOADING...

วันนี้ (8 เมษายน) ที่อาคารรัฐสภา พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) นำคณะ สว.กว่า 50 คน ร่วมแถลงข่าวคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex เนื่องจากร่างดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (9 เมษายน)

 

“ผมและ สว. ส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรจึงมาแถลงข่าวคัดค้านการนำร่างพ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร รวมไปถึงกาสิโนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เราเห็นด้วยกับตัวสถานบันเทิงครบวงจรแต่ไม่เห็นด้วยกับกาสิโน ต้องบอกว่าหยุดร่างกฎหมายบ่อนกาสิโน ก่อนที่ความมั่นคงของชาติจะถูกรื้อถอนโดยกระบวนการนิติบัญญัติที่ขาดความชอบธรรม” พิสิษฐ์กล่าว

 

พิสิษฐ์ยังกล่าวว่า ในเหตุผลข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 9 และ 10 ระบุไว้ว่ากรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่ากิจการใดมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ได้เสียของประเทศ หรือสิทธิเสรีภาพของประชาชน คณะรัฐมนตรีสามารถเสนอให้มีการออกเสียงประชามติได้และต้องดำเนินการให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

 

รวมถึงใน มาตรา 7 วรรคสอง กำหนดให้ต้องจัดทำประชามติในกรณีที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และ หมวด 2, การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, เรื่องที่กระทบ ต่อบูรณภาพแห่งอาณาเขต ซึ่งสามารถตีความได้ว่าการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนอาจกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ

 

พิสิษฐ์ระบุว่า ฝ่ายค้านและกลุ่มภาคประชาสังคมจำนวนมากเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลกระทบเชิงเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมในวงกว้างอีกทั้งกระบวนการจัดทำร่างกฎหมายยังขาดการรับฟังความเห็นอย่างทั่วถึงจึงควรใช้กลไกประชามติตามพรบดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญ การเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายโดยไม่มีการจัดทำประชามติเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 172 รวมถึง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 123/1 หากพบว่ามีการละเว้นหน้าที่หรือเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดโดยมิชอบ

 

ส่วนเหตุผลทางจริยธรรมนั้น การพนันทราบอยู่แล้วว่าเป็นอบายมุขที่ขัดต่อศีลธรรมของสังคม การเปิดกาสิโนจะส่งผลกระทบต่อเยาวชน ครอบครัวและกลุ่มเปราะบางทำให้เกิดปัญหาสังคมเช่นการติดการพนัน หนี้สินและอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจ กาสิโนไม่ใช่เครื่องมือที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ยั่งยืนรายได้จากภาษีการพนันไม่แน่นอนต้องแลกกับต้นทุนทางสังคมที่สูงขึ้น การติดการพนันต้องมาบำบัดผู้ที่ติดการพนัน การเปิดกาสิโน อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ไม่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง การอ้างว่าเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ขอตอบเลยว่าไม่ใช่

 

“เหตุผลทางด้านความมั่นคง กาสิโนอาจถูกใช้ฟอกเงิน เพราะเป็นช่องทางการฟอกเงินที่ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด การสนับสนุนธุรกิจผิดกฎหมายเป็นภัยต่อระบบการเงินและความมั่นคงในประเทศ การเปิดกาสิโนในประเทศที่ขาดการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง อาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมข้ามชาติและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย” พิสิษฐ์กล่าว

 

พิสิษฐ์ระบุว่า ในหลักธรรมาภิบาลการผลักดันกฎหมายนี้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลหรือจัดเวทีรับฟังความเห็นอย่างเพียงพอ การดำเนินนโยบายสาธารณะแบบนี้ควรยึดหลักความโปร่งใสตรวจสอบได้และตั้งอยู่บนฐานของผลประโยชน์สาธารณะไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่กลุ่มทุน

 

ทั้งนี้ จึงขอยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายไปยังรัฐบาล ให้หยุดการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้และถอนออกจากระเบียบวาระทันที หากเดินหน้าต่อควรจัดให้มีการทำประชามติทั่วประเทศ และจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ควรศึกษาการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหรืออุตสาหกรรมสีเขียว เป็นต้น ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรรวมถึงกาสิโน แม้ว่าจะอ้างผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญแต่ในทางปฏิบัติกับแฝงมาด้วยความเสี่ยงรอบด้าน

 

“พวกเรา สว. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภาเคารพต่อเสียงของประชาชนและหยุดกระบวนการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ก่อนที่ประเทศไทยจะต้องสูญเสียสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้ในอนาคต หากพรุ่งนี้สภาผู้แทนราษฎรโหวตรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร สว. จะขอดำเนินการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรม” พิสิษฐ์กล่าว

 

พิสิษฐ์เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการลงชื่อเพื่อคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งมี สว.ส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยหลักร้อยคน พร้อมร่วม กันทำสัญลักษณ์ ชูมือเป็นรูปกากบาท​ แสดงออกถึงจุดยืนคัดค้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising