×

อังคณามองข้อเสนอ สว. ให้ประหารชีวิตนักโทษยาเสพติด ขัดต่อ พ.ร.บ.อุ้มหาย กฎหมายต้องเด็ดขาดแต่ไม่ใช้วิธีรุนแรง

โดย THE STANDARD TEAM
29.01.2025
  • LOADING...
อังคณา นีละไพจิตร แสดงความเห็นต่อข้อเสนอประหารชีวิตนักโทษยาเสพติด

วันนี้ (29 มกราคม) ที่อาคารรัฐสภา อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ อะมัด อายุเคน สว. เสนอให้ประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดในที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (28 มกราคม)

 

อังคณาระบุว่า เมื่อวานแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่าจะมีหลักประกันอะไรในการปราบยาเสพติดไม่ให้ซ้ำรอยเดิมในช่วงสงครามยาเสพติดที่ฆ่าตัดตอนไปประมาณ 2,000 คน แต่สุดท้ายไม่มีผู้กระทำผิดแม้แต่คนเดียวที่ถูกลงโทษ ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่ห่วงใย และยังพูดถึงเรื่องการควบคุมตัวที่กฎหมาย ป.ป.ส. ให้ควบคุมตัวได้ 3 วัน เพราะอะไรถึงมากขนาดนั้น

 

ส่วนกรณีที่มี สว. พูดถึงเรื่องการประหารชีวิตนั้น ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ แต่คงต้องไปทบทวนเหตุการณ์ในอดีต ที่การฆ่าตัดตอนคนจำนวนมาก แต่สุดท้ายยาเสพติดก็ไม่หมดไป รวมถึงข้อเสนอที่ให้มีการถ่ายทอดสดในช่วงการประหารชีวิตนั้นถือเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นมนุษย์ เป็นการผลิตซ้ำความรุนแรง และไม่ได้ทำให้เกิดความหลาบจำ แต่จะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยอย่างเยาวชนได้มองเห็น วิธีการแบบนี้ขัดกับกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ในเรื่องของการกระทำใดๆ ที่เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในมาตรา 6 ซึ่ง สว. ท่านนั้นต้องไปศึกษากฎหมายเพิ่มเติม

 

อังคณากล่าวด้วยว่า เมื่อวานนี้ยังพูดถึงกรณีกลุ่มชาติพันธุ์ทางเหนือหลายคนเป็นคนไร้สัญชาติ ส่วนใหญ่ไม่มีบัญชีธนาคารก็จะเก็บเงินไว้ที่บ้าน บางทีเพื่อนบ้านหรือถ้ามีคนไปให้ข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีการยึดทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่มาจากการใส่ร้ายป้ายสีได้ แล้ววันนี้เรามีกฎหมายให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ก็ยังมีปัญหาและอุปสรรคอีกเยอะมาก ผู้ต้องขังเรื่องยาเสพติดในเรือนจำลดลง แต่คนเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหน ออกมาอยู่ข้างนอกตามชุมชน ครอบครัว หรือโรงพยาบาล ก็ไม่มีศักยภาพในการดูแล

 

“ฉะนั้นหากจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบก็ต้องปราบปรามผู้กระทำผิดรายใหญ่ และต้องดำเนินการอย่างจริงจัง อย่างในอดีตคนที่ขับรถขนส่งก็จะกินยาม้าเป็นประจำ แต่พอกลายเป็นยาบ้าก็มีราคาสูงขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่า คนก็หันมาขายและติดยากันมากขึ้น นายกรัฐมนตรีก็บอกว่าจะผลักดันอย่างเด็ดขาด ซึ่งในความเห็นส่วนตัวก็ต้องมีหลักประกันว่าเด็ดขาดคือให้ยาหมดไป แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการที่รุนแรง เพราะในขณะเดียวกันที่รัฐบาลใช้กฎหมาย รัฐบาลก็ต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปด้วย” อังคณากล่าว

 

อังคณาย้ำว่า ความคิดเห็น สว. คนดังกล่าวเป็นความเห็นของคนคนเดียว แต่เมื่อวานภาพที่ออกมาก็เหมือนว่ามี สว. หลายคนยืนอยู่ข้างหลัง สังคมอาจมองว่าเป็นการสนับสนุน ซึ่งส่วนตัวก็เคารพเสรีภาพในการแสดงความเห็น แต่มองว่าการเสนอเรื่องแบบนี้ในพื้นที่สาธารณะก็อาจสุ่มเสี่ยงต่อการวิพากษ์วิจารณ์ หรืออาจเป็นแนวทางที่ทำให้การฆ่าตัดตอนเกิดขึ้นอีกหรือไม่ การประหารชีวิตไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ต้องมีคำพิพากษาจากศาล และมีพยานหลักฐาน การกระทำผิดต้องเป็นโทษรุนแรง

 

“การพูดแบบนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าเรารับได้ และสิ่งที่พูดก็ขัดกับมาตรา 6 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ในเรื่องการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หากมีการถ่ายทอดสด แต่คิดว่า สว. ท่านนั้นพูดเหมือนปากพาไป” อังคณาระบุ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ อะมัด อายุเคน สว. เสนอต่อที่ประชุมให้มีการตั้งศาลพิเศษขึ้นมาตัดสินคดียาเสพติดให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยให้มีโทษประหารชีวิตและถ่ายทอดสดออกอากาศ พร้อมวิจารณ์ว่ากฎหมายของไทยยังอ่อนแอ และเปรียบเทียบกับกฎหมายคดียาเสพติดของสิงคโปร์ที่มีความเด็ดขาด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising