สืบเนื่องจาก เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้เสนอญัตติเรื่อง ขอให้วุฒิสภาชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาตามข้อบังคับ การประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 ข้อ 35 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (23 ธันวาคม) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้มีหนังสือแจ้งผล ระบุว่า ประธานวุฒิสภาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ญัตติดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่วุฒิสภาจะสามารถดำเนินการประชุมเพื่อพิจารณาได้ในระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ตามมาตรา 126 ของรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) วันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่ประชุมวุฒิสภาจึงดำเนินการประชุมได้เฉพาะการทำหน้าที่พิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 126 (2) ของรัฐธรรมนูญ
และตามที่ประธานวุฒิสภาได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภา เป็นการประชุมสมัยวิสามัญเท่านั้น คือ การทำหน้าที่พิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง ตามมาตรา 222 ของรัฐธรรมนูญ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามมาตรา 232 ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ที่ประชุมวุฒิสภาจึงไม่สามารถพิจารณาญัตติเรื่องนี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ในวันพรุ่งนี้ (24 ธันวาคม) มีวาระเรื่องด่วน คือ วาระตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรม ทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (จิรุตม์ วิศาลจิตร, มณฑล สุดประเสริฐ) และวาระให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบด้วย สุชาติ สุนทรีเกษม และ มนูภาน ยศธแสนย์


