วันนี้ (16 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ‘ทนายอั๋น บุรีรัมย์’ พากลุ่มประชาชน และอดีตผู้สมัคร สว. ยื่นหนังสือต่อ นันทนา นันทวโรภาส สว. เพื่อขอให้ สว. บางส่วนหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยภัทรพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ผลปรากฏชัดเจนว่า สว. กลุ่มนี้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองและมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีความชัดเจนว่าเป็นการฝักใฝ่ของพรรคการเมือง ทำให้วุฒิสภาตกต่ำ ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 113
ภัทรพงศ์ระบุว่า จึงมายื่นหนังสือต่อนันทนา เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรา 82 รวบรวมรายชื่อ สว. ไม่น้อยกว่า 20 คนส่งให้ประธานรัฐสภาตีความ และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ สว. ที่ถูกหมายเรียกยุติการปฏิบัติหน้าที่ และให้ความเป็นสมาชิกภาพของ สว. สิ้นสุดลงหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และคาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับการวินิจฉัย พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่บางภารกิจ
ด้านนันทนากล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกของการเมืองไทยในรอบ 93 ปี ที่วุฒิสมาชิกถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบเกินครึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ และผิดปกติตั้งแต่กติกาที่วิปริตให้เลือกกันเอง ส่งผลให้เกิดการฮั้ว และขณะนี้สังคมก็รับทราบว่าการได้มาของ สว. นั้นไม่ได้สุจริตเที่ยงธรรม ไม่โปร่งใส ขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ DSI ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ สว. ทั้ง 55 คน ซึ่งมีแนวโน้มจะแจ้งข้อกล่าวหาไปถึงผู้บงการ
“ภาพลักษณ์ของ สว. ขณะนี้ตกต่ำลงที่สุดในประวัติศาสตร์ ประชาชนไม่ได้เชื่อถือ การทำหน้าที่ของ สว. เพราะที่มาไม่ชัดเจน มีข้อกังขา ซึ่งดิฉันจะดำเนินการตามคำร้อง รวบรวมรายชื่อส่งให้ประธานรัฐสภา และศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัย เพื่อให้มีการวินิจฉัยว่าจะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนตัวเองในฐานะ สว. ได้เคยประกาศแล้วว่า พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และพร้อมที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการลงมติ และให้ความเห็นชอบต่อองค์กรอิสระ” นันทนากล่าว
นันทนายังกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็น DSI สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กกต. หรือว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นประโยชน์ทับซ้อน เมื่อ สว. ลงมติเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งขององค์กรอิสระ แล้วองค์กรอิสระมาตรวจสอบ สว. อีกที ทำให้เกิดการทับซ้อน เป็นผลต่างตอบแทน ระหว่างผู้ที่ลงมติและผู้ที่รับตำแหน่ง จึงไม่สง่างามและไม่ควรเกิดขึ้น
จึงขอเรียกร้องให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะลงความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครยอมทำ หวงอำนาจ เพราะคิดว่านี่คืออำนาจสำคัญที่ตัวเองจะได้ประโยชน์
“ถ้าปล่อยให้ สว. กลุ่มนี้ทำหน้าที่ต่อไปประเทศชาติป่นปี้พินาศแน่ เพราะเป็นการตอบแทนระหว่างคน 2 กลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจในการเปลี่ยนประเทศ” นันทนากล่าว
นันทนากล่าวต่อไปว่า จะนำคำร้องนี้ไปขอความกรุณาจาก สว. เสียงข้างน้อย เช่น สว. อิสระ และ สว. พันธุ์ใหม่ ให้มาลงชื่อเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และรักษาภาพลักษณ์เกียรติภูมิของ สว. พวกเราพร้อมที่จะไม่ทำหน้าที่ เพราะมี สว. มัวหรือสีเทา ไม่ได้เป็น สว.ด้วยความสุจริตและโปร่งใส โดยจะไปขอรายชื่อ สว. 20 คน ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ว่าต้องได้จำนวน 1 ใน 10 ของสมาชิกที่มีอยู่ และจะนำเรื่องนี้ส่งไปยังประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 55 สว.ที่ถูกกล่าวหา เพื่อดูว่าประธานวุฒิสภาจะส่งคำร้องนี้ไปต่อยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
“เราก็จะเห็นว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งมีจิตวิญญาณเพื่อประชาชน จิตวิญญาณของผู้ดำรงตำแหน่งนี้ เห็นประโยชน์ส่วนตนหรือเห็นเปรียวส่วนรวมของประเทศชาติ ซึ่งจะมีการยื่นให้ประธานวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า” นันทนากล่าว