ความเคลื่อนไหวสืบเนื่องจากคดีฮั้ว สว. เขย่าสภาสูงต่อเนื่อง จนเข้าสู่ ‘จุดแตกหัก’ ในวันนี้ (30 พฤษภาคม) เมื่อที่ประชุมวุฒิสภาได้เลื่อนญัตติของ เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่เสนอให้ชะลอวาระการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติฯ ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
รวมทั้งการให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนมาก ตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ไม่ว่าจะสืบเนื่องจากคดีฮั้ว สว. หรือกรณีที่กลุ่ม สว. นำโดย พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร ที่ยื่นต่อองค์กรอิสระต่างๆ ให้ตรวจสอบบทบาทของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตลอดจนหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
แม้คณะกรรมการกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา จะยินยอมให้เลื่อนญัตติของเทวฤทธิ์ขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระแรกของการประชุม พร้อมเปิดโอกาสให้ สว. ทุกฝั่งฝ่าย ได้ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายเสียงข้างมากที่ยืนยันว่าต้องเดินหน้าต่อ และเสียงข้างน้อยที่พยายามท้วงติง
แต่จนแล้วจนรอด ผลการลงมติปรากฏเป็นคะแนนเสียงเห็นชอบ 37 เสียง ไม่เห็นชอบ 125 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมวุฒิสภามีมติเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับญัตติขอให้ชะลอวาระดังกล่าวออกไป เป็นเหตุให้ สว. เสียงข้างน้อย นำโดย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และ นันทนา นันทวโรภาส ประกาศไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับกระบวนการหลังจากนั้น และพากันเดินออกจากห้องประชุมทันที
THE STANDARD ตรวจสอบผลการลงมติในวาระดังกล่าว พบว่า สว. เสียงข้างน้อย 37 คน ที่ลงมติเห็นด้วยให้ชะลอวาระการเลือกบุคคลในองค์กรอิสระ อยู่ในกลุ่ม ‘สว. พันธุ์ใหม่’ หรือ ‘สว. สีขาว’ ที่มีจุดยืนเป็นอิสระ ประกอบด้วย
- เกียรติชาย ไมตรีวงษ์
- ชวพล วัฒนพรมงคล
- ชิบ จิตนิยม
- ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์
- ชูชาติ อินสว่าง
- ชูชีพ เอื้อการณ์
- โชติชัย บัวดิ
- ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์
- เทวฤทธิ์ มณีฉาย
- นรเศรษฐ์ ปรัชญากร
- นันทนา นันทวโรภาส
- นิคม มากรุ่งแจ้ง
- นิชาภา สุวรรณนาค
- ปฏิมา จีระแพทย์
- ประทุม วงศ์สวัสดิ์
- ประภาส ปิ่นตบแต่ง
- ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล
- ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ
- เปรมศักดิ์ เพียยุระ
- พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต
- พรชัย วิทยเลิศพันธุ์
- มณีรัฐ เขมะวงค์
- มังกร ศรีเจริญกูล
- มานะ มหาสุวีระชัย
- ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา
- รจนา เพิ่มพูล
- พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร
- รัชนีกร ทองทิพย์
- พล.ต.ท. วันไชย เอกพรพิชญ์
- วีรยุทธ สร้อยทอง
- น.ต. วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ
- ศรายุทธ ยิ้มยวน
- เศรณี อนิลบล
- สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์
- สุนทร พฤกษพิพัฒน์
- อภินันท์ เผือกผ่อง
- อังคณา นีละไพจิตร
อย่างไรก็ตาม พบว่ากลุ่ม ‘สว. สีน้ำเงิน’ บางคน ก็เลือกโหวตงดออกเสียง โดยไม่นับ มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา และ พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ที่งดออกเสียงเพื่อรักษาความเป็นกลางในที่ประชุม ขณะที่บางคนก็ถูกหมายเรียกเข้าชี้แจงข้อกล่าวในคดีฮั้วจากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 เช่น วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี, จรุณ กลิ่นตลบ และ จุฑารัตน์ นิลเปรม
สอดคล้องกับกระแสข่าวที่สื่อบางสำนักรายงานว่า สว. สีน้ำเงิน บางส่วนตัดสินใจที่จะถอยจากปฏิบัติการต่างๆ หลังถูกเรียกหรือสอบสวนโดยคณะกรรมการสืบสวนฯ กระทั่งมีบางคนตัดสินใจขอให้กันตัวไว้เป็นพยานในคดีฮั้ว สว. เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง หรือเพื่อลดหย่อนโทษ ไม่แน่ว่าอาจแสดงออกผ่านการลงมติครั้งนี้
โดย สว. ทั้งหมด 12 คน ที่ลงมติงดออกเสียง ได้แก่
- มงคล สุระสัจจะ
- พล.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์
- จรุณ กลิ่นตลบ
- จุฑารัตน์ นิลเปรม
- พ.อ.หญิง ธณตศกร บุราคม
- ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ
- วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี
- สุทิน แก้วพนา
- เอกชัย เรืองรัตน์
- กานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์
- ขจรศักดิ์ ศรีวิราช
- จิระศักดิ์ ชูความดี
ส่วน 1 เสียง ที่ไม่ลงคะแนน คือ เดชา นุตาลัย
สำหรับ สว. เสียงข้างมากที่ลงมติไม่เห็นชอบกับการชะลอวาระทั้งหมด 125 คน คือกลุ่ม สว. สีน้ำเงิน โดยเฉพาะ สว. ที่มีบทบาทโดดเด่น เช่น อลงกต วรกี, พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร, วุฒิชาติ กัลยาณมิตร, พล.อ. สวัสดิ์ ทัศนา, พล.ต.ท. บุญจันทร์ นวลสาย, สิทธิกร ธงยศ และ พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์
ภายหลังการลงมติไม่นาน ทั้งนันทนาและ น.ต. วุฒิพงศ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวแสดงจุดยืนอีกครั้ง โดยเฉพาะ น.ต. วุฒิพงศ์ ที่ก่อนหน้านี้พยายามประนีประนอมกับทุกฝ่าย และได้เสนอให้ชะลอวาระเลือกองค์กรอิสระไปจนถึงการเปิดประชุมสมัยสามัญ เพื่อหาทางออกตรงกลาง
“เมื่อฟังการอภิปรายในห้องประชุม ผมก็น้ำตาไหล สงสารตัวเอง สงสารประชาชน วันนี้จึงตัดสินใจลงมาชี้แจงกับประชาชนว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้ว แต่ผมไม่กลัว ตอนนี้ความกลัวเปลี่ยนเป็นความกล้า” น.ต. วุฒิพงศ์ กล่าว
น.ต. วุฒิพงศ์ ยังเปิดเผยต่อสื่อมวลชนด้วยว่า สว. เสียงข้างน้อยบางส่วนก็ตัดสินใจงดออกเสียง เพราะเกรงกลัวการโดนข่มขู่ แต่ขอให้สังเกตว่า เสียงฝ่าย สว. สีน้ำเงิน ที่เคยประเมินกันว่าจะมีถึง 140-150 เสียงนั้น กลับลดลงไปพอสมควร บางคนถึงขั้นไม่เข้าร่วมประชุมในนัดนี้เสียเลย ขณะที่ฝ่ายเสียงข้างน้อยกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“เขาอาฆาตมาดร้ายไว้แล้ว การทำงานต่อไปของ สว. เสียงข้างน้อยก็จะลำบาก เพราะเสี่ยงจะโดนฟ้องร้องเหมือนที่อาจารย์นันทนาประสบในเรื่องจริยธรรม” น.ต. วุฒิพงศ์ คาดหมายถึงสถานการณ์ที่ 35 เสียงข้างน้อย จะต้องเผชิญ
นันทนาเองยังได้ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ขณะนี้มีกลไกที่ สว. เสียงข้างมาก จะใช้ตอบโต้กลับ คือกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ที่มี พล.อ. เกรียงไกร เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งยังมีเรื่องต่างๆ ที่เป็นบ่วงผูกพัน สว. เสียงข้างน้อยแต่ละคนไว้อยู่ และมีอำนาจตัดสินด้วยว่า สว. คนใดผิดจริยธรรม
“นี่ไม่ได้ขู่แต่คือการปฏิบัติจริง และมีชื่อถูกร้องแล้ว สู้เพื่อให้สิ่งที่ถูกต้องเกิดขึ้นไม่หวั่นไหว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ และมองเห็นว่าสิ่งที่ทำเราทำเพื่อให้เกิดความถูกต้องยุติธรรมในประเทศ” นันทนากล่าว