วันนี้ (30 กันยายน) ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 15 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) วาระพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียง ประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. วาระ 2 ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
รายงานของคณะกรรมาธิการมีการแก้ไขเนื้อหาเพียงมาตราเดียวคือมาตรา 7 แก้ไขมาตรา 13 ว่าด้วยหลักเกณฑ์การผ่าน ประชามติ กำหนดให้การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในการจัดทำ ประชามติ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น
ในการประชุม คณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยได้สงวนความเห็นและอภิปรายขอให้กลับไปใช้เนื้อหาเดิมที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม พบว่ามี สว. ผู้ที่สนับสนุนและคัดค้านกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฏว่าเสียงข้างมากเห็นชอบด้วยกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 21 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง
โดยในเวลา 14.38 น. ที่ประชุมลงมติในวาระ 3 เสียงข้างมาก 167 เสียง เห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ต่อ 19 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวุฒิสภาไม่เห็นชอบตามมติของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องส่งร่างกฎหมายกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และหากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันตามมติเดิม ต้องตั้งกรรมาธิการร่วมระหว่าง 2 สภา ซึ่งในกรณีที่ 2 สภายังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ จะต้องยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ 180 วัน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะหยิบยกมาพิจารณาอีกครั้งได้
