เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) กระทรวงศึกษาธิการแถลงความคืบหน้ากรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ตอบคำถามจากสังคมนอกจากกรณีของ นางรจนา สินที ที่ถูกลงโทษทางวินัยไปแล้วนั้น ยังมีใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง ซึ่งจากหลักฐานยังไม่พบความเชื่อมโยง แต่คณะกรรมการสืบสวนฯ ยังคงทำงานอย่างหนัก คาดว่าสัปดาห์นี้หากพบมีมูลความผิดจริงจะสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากตำแหน่งโดยยึดตามพยานหลักฐาน ขณะที่วันที่ 5 เมษายนนี้ เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องที่พ้นจากราชการไปแล้วมาให้ข้อมูล รวมถึงนางรจนาด้วย
ส่วนประเด็นใหม่ที่พบเพิ่มเติมคือ ในปี 2547 มีความผิดปกติในการโอนเงิน 1 รายการ และปี 2548 พบความผิดปกติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการโอนเงินเข้าบัญชีของนางรจนา โอนเงินเข้าบัญชีผู้ที่มียศร้อยตำรวจตรี โอนเงินเข้าบัญชีวัด รวมถึงโอนเงินเข้าบัญชีผู้ที่มีคำนำหน้าว่านาง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ได้รับเงินจากกองทุน โดยยอดรวมการทุจริตในปี 2548 อย่างไม่เป็นทางการ มีจำนวน 2,915,000 บาท ส่วนยอดรวมการทุจริตตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปี 2561 มีทั้งสิ้น 110,343,227 บาท
ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนฯ กำลังตรวจสอบพยานวัตถุอยู่ โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งนายโอฬาร เก่งรักษ์สัตว์ รักษาการแทน ผอ.สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา เป็นกรรมการสืบสวนฯ เพิ่มเติม โดยจะขนทรัพย์สินทั้งหมดในห้องทำงานของนางรจนามาตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไรบ้าง
นอกจากกรณีทุจริตกองทุนเสมาฯ แล้ว กระทรวงศึกษาธิการยังเตรียมสรุปประเด็นทุจริตที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอีก 6 กรณีด้วย เช่น โครงการ MOENet โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา กรณี ผอ.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเรียกรับสินบน กรณีการก่อสร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์ หรือโดม 11 โรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีโครงการกล้องวงจรปิดโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณี สกสค. ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด
“วันนี้เป็นวันครบรอบ 126 ปีของกระทรวงศึกษาธิการ ผมอยากให้ความมั่นใจว่า ตราบใดที่ผู้บริหารชุดนี้ยังอยู่ กระทรวงศึกษาธิการต้องสะอาดขึ้นอย่างแน่นอน กระทรวงของเราถือเป็นครูบาอาจารย์ที่ต้องไปสอนเด็ก เราต้องเป็นตัวแทนของความโปร่งใส อยากให้เข้าใจว่าที่ผ่านมาเป็นปีที่เราจับทุจริตได้มากที่สุด และผมกล้ายืนยันว่าไม่มีการโกง มีแต่การจับโกง ซึ่งข้าราชการทุกฝ่ายต่างร่วมมือกันเต็มที่ เรื่องนี้สามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าว
