หากคุณตั้งเป้าสร้างความมั่งคั่งในปี 2025 เศรษฐีที่สร้างตัวจากศูนย์มีคำตอบให้! แม้การ ‘รวยภายในปีเดียว’ อาจเป็นไปได้ยาก แต่มีขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มความมั่งคั่งได้ ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากจุดไหน โดยเศรษฐีหลายคนยืนยันว่าการลงทุนไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่ทำตามหลักการพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอก็สร้างความมั่งคั่งได้ เหมือนการวิ่งมาราธอนที่ไม่ต้องวิ่งเร็ว แค่วิ่งให้ถึงเส้นชัย
Ramit Sethi ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและเศรษฐีที่สร้างตัวเองเผยกับ CNBC Make It ว่า “หลายคนเชื่อว่าคนรวยมีการลงทุนลับๆ ที่ทำให้พวกเขาทำเงินมหาศาล ผมเข้าถึงการลงทุนพวกนั้นได้ และบอกได้เลยว่ามันไม่ได้ให้ผลตอบแทนดีกว่ากองทุนดัชนี S&P ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ”
เขาแนะนำให้เริ่มลงทุนแต่เนิ่นๆ และตั้งระบบอัตโนมัติให้หักเงินเดือนเข้าการลงทุน 10% ทุกปี พร้อมเพิ่มสัดส่วน 1% ทุกสิ้นปี “ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ และคุณจะกลายเป็นเศรษฐีเงินหลายล้าน”
อาจดูเหมือนว่าการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังมาแรง หรือทุ่มเงินทั้งหมดไปกับหุ้นที่มีประวัติผลตอบแทนดีจะทำให้รวยได้เร็วกว่า แต่กลยุทธ์เหล่านี้มาพร้อมความเสี่ยงมหาศาล ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต แม้แต่นักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงก็ไม่สามารถจับจังหวะตลาดได้
Steve Adcock เศรษฐีที่เกษียณเร็วยอมรับว่า เขาเสียดายที่ไม่ได้ลงทุนเชิงรุกมากกว่านี้ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ “มันคือการเติบโตแบบทบต้น ยิ่งลงทุนนานเท่าไรคุณก็จะมีเงินตอนเกษียณมากขึ้นเท่านั้น” การลงทุนแต่เนิ่นๆ ช่วยให้ดอกเบี้ยทบต้นทำงาน เงินต้นและผลกำไรจะเติบโตต่อเนื่องแบบทวีคูณ เหมือนลูกบอลหิมะที่กลิ้งลงเขา ยิ่งกลิ้งนานยิ่งใหญ่ขึ้น
สำหรับคนที่มีประกันสังคมหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ Sethi แนะนำให้ใช้ประโยชน์จากการหักเงินอัตโนมัติ โดยเฉพาะถ้าบริษัทมีการจ่ายสมทบ “นี่คือเงินฟรีที่คุณไม่ควรพลาด แม้คุณจะอายุยังน้อยและรายได้ไม่สูง แต่นี่คือโอกาสทองในการวางรากฐานนิสัยการออมและการลงทุนที่ดี”
อย่างไรก็ตาม Tess Waresmith เตือนว่า แม้ไม่จำเป็นต้องเป็นมืออาชีพก็ลงทุนได้ แต่ต้องระวัง ‘กับดักที่ปรึกษาการเงิน’ ที่ไม่เหมาะสม เธอเคยเสียเงินจากการรับคำแนะนำผิดๆ ตอนอายุ 26 ปี หลังจากเก็บเงินได้ก้อนใหญ่จากการทำงานบนเรือสำราญ “เพื่อนบอกว่าฉันควรให้เงินทำงานแทนที่จะกักตุนไว้เฉยๆ ด้วยความกลัวว่าจะลงทุนผิด ฉันเลยจ้างที่ปรึกษาการเงิน แต่พวกเขากลับตัดสินใจแย่ๆ แทนฉัน” เธอกล่าว
“ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ซื้อประกันบำนาญที่เหมาะกับคนอายุ 50 ปี” Waresmith เล่าถึงประสบการณ์อันเจ็บปวด แต่บทเรียนนี้ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณอันตราย เธอแนะนำให้อ่านหนังสือหรือเรียนคอร์สพื้นฐาน 1-2 เล่มก่อนเลือกที่ปรึกษา
“คุณไม่จำเป็นต้องมีปริญญาเอกด้านการลงทุนหรือเป็นนักวิเคราะห์ แต่ต้องมีความรู้พอที่จะเห็นสัญญาณอันตราย ตอนนั้นฉันไม่รู้อะไรเลย จึงมองไม่เห็นจุดผิดปกติ”
นอกจากนี้เธอยังแนะนำให้เลือกที่ปรึกษาที่คิดค่าธรรมเนียมแบบเหมาจ่าย แทนการคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากผลกำไร และหากที่ปรึกษาไม่โปร่งใสเรื่องค่าใช้จ่าย เงินไม่โตอย่างที่ควรจะเป็น หรือคุณไม่แน่ใจว่าพวกเขาได้ค่าตอบแทนอย่างไร นั่นคือสัญญาณว่าควรเปลี่ยนคนใหม่
เธอย้ำว่าความรู้พื้นฐานไม่เพียงช่วยปกป้องเงินออมของคุณ แต่ยังช่วยให้คุณมั่นใจในการตัดสินใจลงทุนมากขึ้นด้วย
สุดท้ายผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเห็นพ้องว่า ‘ความสม่ำเสมอ’ คือกุญแจสำคัญสู่ความมั่งคั่ง การกระจายการลงทุน การรักษาระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวมากกว่าการพยายามรวยทางลัด เหมือนนิทานกระต่ายกับเต่า บางครั้งการเดินช้าๆ แต่มั่นคงก็ชนะการวิ่งเร็วแต่ไม่สม่ำเสมอ
อ้างอิง: