วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา กับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู โดยมี พล.ต. ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวให้การต้อนรับ
ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรกล่าวว่า ในส่วนของการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เราเป็นหน่วยป้องกันชายแดนจำนวน 993 กิโลเมตร โดยได้รับคำสั่งจากกองทัพบกเป็นหลัก ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมา ก็เป็นที่ปรากฏเรื่องภัยคุกคามต่างๆ ที่เกิดจากความเชื่อมโยงกันของการสู้รบ และความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงภัยคุกคามที่ปรากฏอยู่ตามที่ทุกท่านได้ทราบ ซึ่งกองกำลังเฉพาะกิจราชมนูได้ปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด
ด้านรังสิมันต์กล่าวว่า เรามาลงพื้นที่ในวันนี้โดยด้านหนึ่งเป็นการติดตามปัญหาบริเวณริมชายแดนอยู่แล้ว ส่วนอีกด้านก็ต้องยอมรับว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาที่มีความท้าทายอย่างมากต่อประเทศไทย และในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีขนาดเติบโตอย่างมาก และสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อมิติการท่องเที่ยว พวกเราในฐานะ กมธ.ความมั่นคงฯ นอกจากจะมาลงพื้นที่ติดตามในครั้งนี้ ก็ยังมาให้กำลังใจและรับฟังปัญหา ข้อจำกัดต่างๆ กับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งตนคิดว่ามีความสำคัญในการทำงานระยะยาว
รังสิมันต์กล่าวอีกว่า วันนี้เราก็พยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือการรับมือในอนาคต หากเราไม่มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ สุดท้ายถ้าเราปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตจะกลับมาอีก และอาจจะเป็นความท้าทายใหม่ในรูปแบบใหม่
“กว่าจะปราบปรามได้มันก็นำมาซึ่งความสูญเสียจำนวนมาก ผมและกรรมาธิการติดตามเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ก็อยากจะให้กำลังใจทุกท่าน งานทั้งหลายที่ท่านได้เผชิญคงเป็นงานที่ไม่ง่ายอย่างแน่นอน มันเป็นการต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นเราคงต้องช่วยกัน กรรมาธิการเราอาจจะอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เราก็พยายามจะสนับสนุน จุดไหนที่เป็นช่องโหว่ช่องว่างเราก็พร้อมจะประสานงานเพื่อแก้ปัญหาต่อไป” รังสิมันต์ทิ้งท้าย