ชาร์ลิซ เธอรอน เป็นหนึ่งในนักแสดงระดับแนวหน้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความทุ่มเทให้กับงานภาพยนตร์แบบเกินร้อยเสมอ หากจำกันได้ เธอเคยเพิ่มน้ำหนักตัวถึง 22 กิโลกรัมเพื่อรับบท ‘แม่’ ที่แบกรับภาระการเลี้ยงลูกอย่างยากลำบากในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง Tully ซึ่งเข้าฉายเมื่อปี 2018 แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง Bombshell ที่ว่ากันว่าเป็นภาพยนตร์ที่หยิบยกเอาคดีล่วงละเมิดทางเพศอันอื้อฉาวไปทั้งวงการข่าวสหรัฐอเมริกาในปี 2006 มาตีแผ่เพื่อสะท้อนปัญหาระดับโลกนี้อีกครั้ง ก็นับเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายสำหรับเธอ แต่ครั้งนี้เธอไม่จำเป็นต้องกินจังก์ฟู้ดเพื่อเพิ่มน้ำหนักแต่อย่างใด เพราะคีย์ลุคสำคัญในเรื่องนี้คือเธอต้องเป็น เมกิน เคลลี อย่างสมบทบาทในทุกมิติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะโครงหน้าและส่วนประกอบต่างๆ บนใบหน้าของเธอต้องถูกแปลงโฉมเพื่อให้สมบทบาท
ผู้ที่รับหน้าที่สำคัญในการแปลงโฉมครั้งนี้คือ คาซุฮิโระ สึจิ เขาเป็นทั้งช่างแต่งหน้าและนักออกแบบเทคนิคแต่งหน้าแบบ Prosthetic Makeup ที่ใช้การปั้นหรือหล่อเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ให้กับการแต่งหน้าที่มักพบในวงการแต่งหน้าภาพยนตร์ ทั้งยังเคยได้รับรางวัลออสการ์สาขา Makeup and Hairstyling เมื่อปี 2018 จากการเปลี่ยนโฉม แกรี โอลด์แมน ให้เป็นคาแรกเตอร์ วินสตัน เชอร์ชิล ในภาพยนตร์เรื่อง Darkest Hour ครั้งนี้เมื่อรู้ว่าต้องปรับโฉมชาร์ลิซให้กลายเป็นเมกิน เคลลี คาซุฮิโระบอกเลยว่านั่นคือความท้าทายใหม่ที่เขาได้รับ
“ส่วนที่ท้าทายคือทุกคนรู้ว่าพวกเขาเป็นใครและหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้นความสมดุลจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ” คาซุฮิโระอธิบาย “ถ้าเราปรับแต่งมากเกินไปมันจะดูเหมือนรายการ Saturday Night Live ไปเลย ดังนั้นผมต้องทำให้พวกเขาดูบอบบาง เป็นธรรมชาติ และไม่มีอะไรโดดเด่น” ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คาซุฮิโระทำกับชาร์ลิซเพื่อแปลงโฉมให้เธอให้กลายเป็นเมกิน
- คาซุฮิโระศึกษาความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันระหว่างชาร์ลิซกับเมกิน เพื่อวิเคราะห์ว่าจะคงลักษณะใดเอาไว้ และออกแบบชิ้นส่วนหรืออวัยวะใดให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
- จมูกของเมกินนั้นมีลักษณะเชิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คาซุฮิโระต้องทำคือเสริมปลายจมูกปลอมเข้าไป ปรับคางให้ดูยาวและแหลมขึ้น
- กรามของชาร์ลิซแต่เดิมนั้นมีลักษณะกลมมน ดูนุ่มนวล ทำให้คาซุฮิโระต้องเน้นปรับแต่งบริเวณกรามให้เรียวกว่าเดิม
- เปลือกตาของเมกินหนากว่าเปลือกตาของชาร์ลิซ ดังนั้นคาซุฮิโระจึงเพิ่มการปรับแต่งบริเวณเปลือกตาและช่วงหน้าผากให้ดูสมจริง
- ทุกครั้งที่ชาร์ลิซต้องแต่งหน้าแปลงโฉมเป็นเมกินจะใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง
- ทีมทำผมสร้างลุคให้ชาร์ลิซมีใบหน้าที่ยาวและหน้าผากดูสูงขึ้นด้วยการปล่อยให้ปอยผมแสกข้างร่วงลงมา ซึ่งช่วยให้ใบหน้าของชาร์ลิซดูเป็นรูปหัวใจเหมือนโครงหน้าของเมกิน
ภาพ: Courtesy of Lionsgate Publicity, YouTube: Deadline Hollywood
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: