สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดรับฟังความเห็นการกำหนดจำนวนขั้นต่ำ ‘ผู้สอบบัญชีในตลาดทุน’ เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้กับสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน พร้อมเฮียริ่งยกระดับการกำกับดูแล-ตรวจสอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชี และการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนครั้งถัดไป สำหรับผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีนอกตลาดทุน เพื่อผลักดันให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนเข้มแข็งและมีบุคลากรเพียงพอที่จะให้บริการแก่บริษัทจดทะเบียนอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ
ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการเกี่ยวกับการกำหนดให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนมีจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำ ซึ่งผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการดังกล่าว โดยเห็นว่าจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำที่เหมาะสมคือ 4 ราย พร้อมเสนอว่า ก.ล.ต. ควรให้ระยะเวลาในการเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนในสังกัดสำนักงานสอบบัญชีให้ได้ตามเกณฑ์ รวมทั้งควรผ่อนผันให้ผู้สอบบัญชีที่ขาดคุณสมบัติได้มีเวลาแก้ไขอย่างเพียงพอ ซึ่ง ก.ล.ต. ได้นำข้อเสนอแนะที่ได้รับมาปรับปรุงร่างประกาศให้มีความเหมาะสม และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้สอบบัญชีและลูกค้าที่เป็นกิจการในตลาดทุน
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
- กำหนดให้ผู้สอบบัญชีในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนที่มีผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำ 4 ราย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2569 สำหรับผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนอยู่แล้ว และมีผลใช้บังคับทันทีสำหรับผู้สอบบัญชีที่ยื่นขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนและสังกัดสำนักงานสอบบัญชีนอกตลาดทุน (สำนักงานสอบบัญชีที่ไม่มีผู้สอบบัญชีในตลาดทุนอยู่ในสังกัด)
- ยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนที่ยื่นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ยื่นคำขอความเห็นชอบครั้งแรก สำหรับผู้ยื่นคำขอความเห็นชอบที่มีผลการปฏิบัติงานสอบบัญชีผ่านเกณฑ์คุณภาพ แต่ ก.ล.ต. ปฏิเสธคำขอครั้งแรกด้วยเหตุที่สำนักงานสอบบัญชีมีจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนน้อยกว่า 4 ราย
- ขยายระยะเวลาแก้ไขคุณสมบัติในเรื่องการสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดทุนขั้นต่ำตามที่ ก.ล.ต. กำหนดจาก 180 วันไปเป็น 1 ปี
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีรายละเอียดการปรับปรุงประกาศในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=966 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือทาง e-mail: [email protected] จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
ลุยเฮียริ่งคุมเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวข้องกับการกำหนดให้สำนักงานสอบบัญชีจัดให้มีการกำกับดูแลและการตรวจสอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) โดยผู้เชี่ยวชาญด้านไอที และการประเมินระดับความเสี่ยงด้านไอที (IT Risk Assessment: ITRA) เพื่อให้จัดการความเสี่ยงในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการต่อการกำหนดให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนต้องจัดให้มีการตรวจสอบด้านไอทีโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้จัดการความเสี่ยงในการใช้ไอทีได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการดังกล่าว และได้ให้ข้อสังเกตรวมทั้งข้อเสนอแนะเกี่ยวกับข้อกำหนดในรายละเอียดและระยะเวลาที่ประกาศจะมีผลใช้บังคับ ก.ล.ต. จึงได้นำข้อเสนอแนะดังกล่าวมาปรับปรุงร่างประกาศให้มีความเหมาะสมและผ่อนปรนมากขึ้น
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว ซึ่งมีหลักการสำคัญ ได้แก่ การกำหนดให้สำนักงานสอบบัญชีที่มีผู้สอบบัญชีในตลาดทุนสังกัดอยู่ ต้องมีการกำกับดูแลและการตรวจสอบด้านไอทีโดยผู้เชี่ยวชาญด้านไอที รวมทั้งส่งรายงานการตรวจสอบด้านไอทีและรายงานการประเมินระดับความเสี่ยงด้านไอที (ITRA) ต่อ ก.ล.ต. ภายใน 5 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดรอบการตรวจสอบของสำนักงานสอบบัญชี หรือภายในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผันจาก ก.ล.ต. โดยให้ส่งผลการตรวจสอบครั้งแรกภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2570 และครั้งต่อไปตามความถี่ที่อ้างอิงจากเกณฑ์การประเมินระดับความเสี่ยงด้านไอทีของสำนักงานสอบบัญชี
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีรายละเอียดการปรับปรุงร่างประกาศในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=965 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือทาง e-mail: [email protected] จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567