สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน 1 ราย คือ อรุโณทัย สร้อยลิ้ม ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 10 ปี กรณีกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริต
ก.ล.ต. ได้รับรายงานการตรวจสอบจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 อรุโณทัยได้ลักลอบสมัครใช้บริการบัตร ATM ที่ผูกกับบัญชีเงินฝากของลูกค้า และทำรายการขายหน่วยลงทุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- ทองคำ กำลังไหลเข้าเอเชีย ท่ามกลางดอกเบี้ยโลกที่กำลังขึ้นต่อเนื่อง
- เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 16 ปี
โดยแอบใช้รหัสผ่านของพนักงานธนาคารที่มีหน้าที่อนุมัติรายการขายหน่วยลงทุน และถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุนดังกล่าวไปเข้าบัญชีตนเอง รวมทั้งได้ถอนและโอนเงินค่าซื้อหน่วยลงทุน และเงินจองซื้อหุ้นกู้จากบัญชีเงินฝากของลูกค้า
นอกจากนี้ ยังได้ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 1,594,143.85 บาท
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า อรุโณทัยไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และมีพฤติกรรมอันส่อไปในทางไม่สุจริต ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของ อรุโณทัยเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษข้างต้น ก.ล.ต. ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงว่า ธนาคารได้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับลูกค้า และอรุโณทัยได้ทำข้อตกลงที่จะชดใช้เงินคืนให้กับธนาคาร รวมทั้งนำปัจจัยอื่นๆ มาประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่
บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหาย หรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์ หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายการซื้อขายหลักทรัพย์และหน่วยลงทุนที่ดำเนินการแล้วเสร็จทันที ตรวจสอบรายงานการถือหลักทรัพย์และหน่วยลงทุน ตรวจสอบบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งต้องไม่ฝากเอกสารสำคัญ ได้แก่ ใบคำสั่งซื้อหรือขายหน่วยลงทุน ใบถอนเงินที่มีการลงลายมือชื่อแล้วไว้กับผู้แนะนำการลงทุน หากพบการซื้อขายหรือการถอนเงินที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้สั่งควรปฏิเสธหรือทักท้วงโดยทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น