ก.ล.ต. เดินหน้าผลักดันตลาดทุนไทยสู่ ‘ตลาดทุนดิจิทัล’ ตามแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง เผยอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ที่มีผลกระทบต่อตลาดทุนในทุกมิติในยุค Web 3.0 เพื่อกำหนดแนวทางและนโยบายกำกับดูแลตลาดทุนที่เหมาะสมรองรับ Virtual Capital Market โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/65
รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ในปัจจุบันพัฒนาการด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นผลต่อการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมและวิธีการทำธุรกรรมในตลาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบออนไลน์ รวมทั้งเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Web 3.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ (Distributed & Decentralized) ที่อาจมีการประยุกต์ใช้งานหลายลักษณะที่อาจแพร่หลายในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
- ทำไมเหรียญ LUNC ถึงพุ่งกว่า 425% ภายใน 14 วัน? อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นครั้งนี้
- ผู้บริหาร Bitkub Blockchain แจงชัด ไม่รู้เรื่องดีล SCB พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจซื้อเหรียญ KUB ย้ำถือลงทุนยาว
ก.ล.ต. ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทย เห็นความจำเป็นในการศึกษาพัฒนาการและแนวทางกำกับดูแลการใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การนำเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Web 3.0 มาประยุกต์ใช้ในภาคการเงินและตลาดทุน ซึ่งอาจนำไปสู่ Virtual Capital Market (ตลาดทุนเสมือน) รวมทั้งเพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มและทิศทางในการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่อาจทำให้ภูมิทัศน์ (Landscape) ของตลาดทุนไทยเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
การศึกษาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ปี 2565-2567 ในการขับเคลื่อนให้ตลาดทุนไทยไปสู่ตลาดทุนดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันกับตลาดทุนต่างประเทศ และส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ
“นับตั้งแต่การปรับภูมิทัศน์การกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเท่าทันต่อพัฒนาการของธุรกิจและสภาพการณ์ปัจจุบัน การยกระดับการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเพิ่มการคุ้มครองผู้ลงทุน รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในตลาดทุนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure: DIF) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการระดมทุน และการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับช่วยตรวจสอบการกระทำผิดในตลาดทุน (E-Enforcement)”
สำหรับการศึกษาจะครอบคลุมพัฒนาการของเทคโนโลยีต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Disruption) ต่อตลาดทุนในมิติต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน วิธีการระดมทุนของภาคธุรกิจ ลักษณะการให้บริการและการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พฤติกรรมของผู้ลงทุน ตลอดจนวิธีการในการกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแล ที่อาจต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องและเท่าทันกับพัฒนาการของเทคโนโลยี ในการติดตามดูแลความเสี่ยงในรูปแบบใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน
นอกจากนี้ จะรวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมาย และแนวทางการกำกับดูแลการใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้กับการกำหนดแนวทางและนโยบายการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ต่อไป โดยคาดว่าการศึกษาดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/65