สำนักงาน ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์คุมเข้มลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี สั่งให้ผู้ประกอบการเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงการลงทุน เริ่มมีผลวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ พร้อมสั่งห้ามทำ deposit taking & lending เริ่มมีผลวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโตของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ผู้ซื้อขายได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของคริปโตอย่างเพียงพอ และออกหลักเกณฑ์ห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการหรือสนับสนุนการให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ฝากและการให้กู้ยืม (deposit taking & lending) เพื่อเพิ่มความคุ้มครองแก่ผู้ลงทุนจากความเสี่ยงของบริการดังกล่าว
ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 มีมติเห็นชอบการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโต และกำหนดห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการหรือสนับสนุนการให้บริการ deposit taking & lending และในการประชุมครั้งที่ 16/2565 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 และครั้งที่ 9/2566 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโตให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ทั้งสองเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- การเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงจากการซื้อขายคริปโต โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโต นายหน้าซื้อขายคริปโต และผู้ค้าคริปโต ต้องเปิดเผยคำเตือนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายคริปโต โดยมีข้อความดังนี้ “คริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง โปรดศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงของคริปโตเคอร์เรนซีอย่างรอบด้าน เพราะท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน” ซึ่งข้อความคำเตือนต้องสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมกับแจ้งผลการประเมินความเหมาะสมในการลงทุน และการจัดสรรและกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม (Basic Asset Allocation) ก่อนให้ลูกค้าใช้บริการ และผู้ประกอบธุรกิจจะต้องจัดให้ผู้ใช้บริการให้ความยินยอมรับทราบความเสี่ยงดังกล่าวก่อนใช้บริการด้วย
- การห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการหรือสนับสนุนการให้บริการ deposit taking & lending โดยมีข้อยกเว้นบางประการตามที่ประกาศกำหนด โดยมีผลใช้บังคับวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้
2.1 ห้ามรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล และนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่รับฝากไปให้กู้ยืมหรือลงทุน และจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ฝาก
2.2 ห้ามรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล โดยให้หรือเสนอว่าจะให้ผลตอบแทนจากการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลตอบแทนอื่นแก่ผู้ฝาก (เช่น จากงบการตลาดของบริษัท) เว้นแต่มีลักษณะเป็นการส่งเสริมการขายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
2.3 ห้ามโฆษณาหรือชักชวนบุคคลทั่วไปหรือกระทำการอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการสนับสนุนการให้บริการ deposit taking & lending ตามข้อ 2.1 และ 2.2 ของผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่น