×

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร CMO กับพวก รวม 4 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริตจนทำให้เกิดความเสียหาย

11.12.2025
  • LOADING...
ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร CMO กับพวก รวม 4 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริตจนทำให้เกิดความเสียหาย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO กับพวกรวม 4 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในข้อหาร่วมกันกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ผ่านการลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทย่อยคือ บริษัท โมเมนตัม เอส จำกัด (MTS) เป็นเหตุให้ CMO ได้รับความเสียหาย

 

จากกรณีผู้สอบบัญชีของ CMO แจ้งความผิดปกติจากการตรวจสอบบัญชีประจำปี 2566 ในเดือนตุลาคม 2566 พบธุรกรรมการลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทย่อยคือ MTS และรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ที่ได้จัดทำตามคำสั่งของ ก.ล.ต. และ CMO ส่งให้ ก.ล.ต. ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 นั้น

 

ก.ล.ต. ได้ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวและพบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า อดีตกรรมการ/ผู้บริหารของ CMO 2 ราย ได้แก่ กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ และกิตติ พัวถาวรสกุล และพวกอีก 2 ราย ได้แก่ สุรเดช ตั้งเสถียรชัยกุล และบริษัท ที มันนี่ (ไทยแลนด์) จำกัด (T-Money) กระทำการทุจริตผ่านการลงทุนซื้อหุ้น MTS โดยพบว่า กิตติศักดิ์และกิตติ นำ T-Money ไปซื้อหุ้น MTS จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมในราคาทุนเพียง 400,000 บาท ก่อนนำไปขายต่อให้แก่ CMO ในราคา 65 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินกว่าราคาที่สามารถซื้อได้จริง และพบว่าบุคคลดังกล่าวทั้ง 2 รายเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากส่วนต่าง (กำไร) จากการขายหุ้นดังกล่าว เป็นเหตุให้ CMO ได้รับความเสียหาย อันเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

 

การกระทำของบุคคล/นิติบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 307 มาตรา 311 มาตรา 313 และมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แล้วแต่กรณี ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 4 รายต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป รวมทั้ง ก.ล.ต. ยังได้แจ้งการดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วยเนื่องจากเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม

 

การถูกกล่าวโทษในข้อหาความผิดที่กล่าว ย่อมเป็นเหตุให้บุคคลข้างต้นเข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจและไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี นับแต่วันที่ ก.ล.ต. มีหนังสือกล่าวโทษบุคคลดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.

 

ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไปเป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม ตามลำดับ โดย ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising