สำนักงาน ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 ราย ปรับเงินรวม 27.40 ล้านบาท ฐานความผิดร่วมกันสร้างราคาหุ้น 5 บริษัท ได้แก่ SCI, GSC, ASIAN, FLOYD และ RP
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 ราย ได้แก่
- ขจรเกียรติ อึ้งอร่าม
- พรทิพย์ เมธีเจริญวงศ์
- ทัศนีย์ แย้มประดิษฐ
- มุทิตา เอกะวิภาต
- ขณิษากาญจน์ โชคสหพิพัฒน์ (ชื่อเดิม วริศรา ชัยเจริญปัญญา)
- เมธาสิทธิ์ มั่นชาวนา
- เมทินี สิทธิกรเมธากุล
- วริยา เข็มทองประดิษฐ์
- ธนพล เข็มทองประดิษฐ์
- อัจฉรา สุวิเดชโกศล
- พจนา พิเศษโภค
- สิทธาปวีร์ ชวรางกูร
- อชิรญา เกียรติทยากร (ชื่อเดิม กัญปอร เกียรติทยากร)
- เมวิกา ดีศรี
กรณีสร้างราคาหุ้นจำนวน 5 บริษัท โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 27,398,667 บาท กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย
สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 – มกราคม 2563 ผู้กระทำความผิด 14 รายที่มีความสัมพันธ์กันทั้งทางการเงิน และ/หรือ มีความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้
- กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 11 ราย ได้แก่ ขจรเกียรติ, พรทิพย์, ทัศนีย์, มุทิตา, เมธาสิทธิ์, เมทินี, วริยา, ธนพล, อัจฉรา, สิทธาปวีร์ และอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.32 บาท เป็น 1.71 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านหุ้น เป็น 12.35 ล้านหุ้น
- กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (GSC) ในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ ขจรเกียรติ, พรทิพย์, ทัศนีย์, มุทิตา, เมธาสิทธิ์, เมทินี, วริยา, ธนพล, สิทธาปวีร์ และอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 0.68 บาท เป็น 0.78 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.58 ล้านหุ้น เป็น 88.23 ล้านหุ้น
- กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ASIAN) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ ขจรเกียรติ, พรทิพย์, ทัศนีย์, เมธาสิทธิ์, เมทินี, วริยา, ธนพล, อัจฉรา, สิทธาปวีร์ และอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 4.10 บาท เป็น 4.36 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านหุ้น เป็น 24.70 ล้านหุ้น
- กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) (FLOYD) ในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 8 ราย ได้แก่ ขจรเกียรติ, พรทิพย์, มุทิตา, เมทินี, ธนพล, อัจฉรา, สิทธาปวีร์ และอชิรญา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.37 บาท เป็น 1.41 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.99 ล้านหุ้น เป็น 25.85 ล้านหุ้น
- กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) (RP) ระหว่างวันที่ 23-24 มกราคม 2563 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ ขจรเกียรติ, พรทิพย์, ขณิษากาญจน์, เมธาสิทธิ์, วริยา, ธนพล, พจนา, สิทธาปวีร์, อชิรญา และเมวิกา ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.41 บาท เป็น 1.48 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.13 ล้านหุ้น เป็น 4.43 ล้านหุ้น
การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดฐานสร้างราคาหุ้น SCI, GSC, ASIAN, FLOYD และ RP ตามมาตรา 244/3 (1) (2) ประกอบมาตรา 244/5 (2) (3) (5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่
ก. ให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด ดังนี้
- ขจรเกียรติ จำนวน 3,429,167 บาท
- พรทิพย์ จำนวน 2,739,565 บาท
- ทัศนีย์ จำนวน 1,700,080 บาท
- มุทิตา จำนวน 1,778,755 บาท
- ขณิษากาญจน์ จำนวน 580,072 บาท
- เมธาสิทธิ์ จำนวน 2,066,636 บาท
- เมทินี จำนวน 2,163,004 บาท
- วริยา จำนวน 2,215,734 บาท
- ธนพล จำนวน 2,785,950 บาท
- อัจฉรา จำนวน 1,551,370 บาท
- พจนา จำนวน 563,597 บาท
- สิทธาปวีร์ จำนวน 2,633,573 บาท
- อชิรญา จำนวน 2,683,524 บาท
- เมวิกา จำนวน 507,640 บาท
ข. ห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 11 ราย ได้แก่
- ขจรเกียรติ
- พรทิพย์
- ทัศนีย์
- มุทิตา
- เมธาสิทธิ์
- เมทินี
- วริยา
- ธนพล
- อัจฉรา
- สิทธาปวีร์
- อชิรญา
ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลารายละ 30 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลารายละ 60 เดือน และห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ ขณิษากาญจน์ พจนา และเมวิกา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลารายละ 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลารายละ 28 เดือน
การกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่งอดีต ‘ซีอีโอสตางค์’ พร้อมพวกรวม 4 ราย สั่งปรับเงินรวม 12 ล้านบาท
- ‘พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี’ เก็บ หุ้น MASTER เพิ่มต่อเนื่องแตะ 5.28% ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่เบอร์ 3 ด้านราคาหุ้นขานรับดีดต่อเกือบ 6%
- ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่งบอร์ด-ผู้บริหาร ‘บิทคับ’ 3 ราย สั่งปรับเงิน 75 ล้านบาท ฐานสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 18 เหรียญ