SeaX Ventures กองทุนสัญชาติไทย ที่เน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพทั่วโลกที่มี Deep Technology หรือเทคโนโลยีขั้นสูง เตรียมงบลงทุน 1.5 พันล้านบาทเฟ้นหาสตาร์ทอัพระดับโลกที่มี Deep Tech เพื่อเข้าร่วมลงทุน และช่วยเร่งสปีดให้องค์กรไทยในฐานะผู้ร่วมลงทุนได้ทรานส์ฟอร์มองค์กร
SeaX Ventures เป็นกองทุนสตาร์ทอัพภายใต้ความร่วมมือกับ RISE ซึ่งเป็นสถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร ประกาศเดินหน้าลงทุนในสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นและระยะเติบโตที่มี Deep Technology ใน 6 ด้าน ได้แก่ Blockchain, Foodtech, Biotech & Life Science, Artificial Intelligence, Robotics และ IoT & Hardware ที่มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตทั้งในอาเซียนและซิลิคอนวัลเลย์
ทั้งนี้ด้วยเครือข่ายของ RISE ที่มีอยู่กับ Incubator และ Accelerator ทั่วโลก รวมไปถึงการเข้าถึงฐานข้อมูลของ Founder ที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ อาทิ Harvard, MIT หรือ Stanford ทำให้ SeaX Ventures สามารถเลือกเฟ้นสตาร์ทอัพ ทั้งเพื่อรับผลตอบแทนในระยะยาว และเพื่อช่วยเร่งสปีดการทรานส์ฟอร์มองค์กรในระยะสั้นได้เป็นอย่างดี
น.พ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ Managing Partner ของ SeaX Ventures กล่าวว่า Deep Technology นับว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่จะทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และเพิ่มโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ผ่านการร่วมทุนหรือ Joint Venture
สำหรับองค์กรที่มาลงทุนกับ SeaX Ventures ถือว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว คือ
- ได้เรียนรู้จากสตาร์ทอัพที่มี Deep Technology มาปรับใช้กับองค์กรได้ทันที
- ได้โอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
- ได้โอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ไปกับสตาร์ทอัพที่มี Deep Technology และมี Synergy ตรงกับธุรกิจขององค์กร
โดย 3 จุดแข็งที่ทำให้การลงทุนในกองทุนสตาร์ทอัพ SeaX Ventures แตกต่าง ดังนี้
- Exclusive Access to World-class Deep Tech Startups
เปิดโอกาสให้องค์กรไทยเข้าถึง Deep Technology จากทั่วโลกผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มี Founder ระดับโลก พร้อมศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและมีโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดด
- Strategic Collaboration Beyond Investment
เน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีที่องค์กรไทยสามารถสร้างความร่วมมือและพัฒนาต่อยอดธุรกิจและนวัตกรรมร่วมกันได้ ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุน (Strategic Investment)
- Exponential Returns on Investment โอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ ซึ่งจากความสำเร็จของกองทุนแรกของ SeaX Ventures ได้สร้างผลตอบแทนคิดเป็น 308% ของอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR)
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา SeaX Ventures ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพไปแล้ว 10 บริษัท และวางแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 30 บริษัท โดยสัดส่วนการลงทุนของ SeaX Ventures จะอยู่ที่การลงทุนในสตาร์ทอัพสหรัฐอเมริกา 70% และสตาร์ทอัพในอาเซียนหรือที่อื่นๆ รวมกัน 30%
ที่ผ่านมา SeaX Ventures ได้เข้าลงทุนใน 2 สตาร์ทอัพบล็อกเชน คือ Solana Blockchain เจ้าของฉายา Ethereum Killer ที่กำลงมาแรงในขณะนี้ และ Band Protocol สตาร์ทอัพบล็อกเชนของคนไทยที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท และขึ้นแท่นเป็นคริปโตคอร์น (สตาร์ทอัพยูนิคอร์นด้านคริปโตเคอร์เรนซี) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากความสำเร็จของกองทุนแรก ปัจจุบัน SeaX Ventures มีเงินลงทุนภายใต้การบริหารรวมกว่า 1.5 พันล้านบาท (ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564) ซึ่งในปีนี้ SeaX Ventures ได้เปิดกองทุนใหม่ และได้ผลการตอบรับอย่างดีจากเจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูง รวมไปถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกหลายแห่ง รวมถึงนักลงทุนสถาบันจากองค์กรชั้นนำ อาทิ
- จรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA
- บรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU
- ชาย ศรีวิกรม์ กรรมการ Gaysorn Group
- อนุษฐา เชาว์วิศิษฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด
- โยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการบริหารบริษัท ดับเบิ้ลเอ (1991) จำกัด (มหาชน)
- นาถ ลิ่วเจริญ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CDG GROUP
- วิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์
- เรืองชาย สุพรรณพงศ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการองค์กร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด
- วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)
- ณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สยามราชธานี หรือ SO
- กองทุน สิงห์ เวนเจอร์ส
- บริษัท วัชรพล จำกัด (ไทยรัฐ)
- บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
- บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- บริษัท บีซีเอช เวนเจอร์ส จำกัด ในกลุ่มบริษัทเบญจจินดา
“ทีมงาน SeaX Ventures รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุน เราตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนและการเติบโตทางธุรกิจให้กับนักลงทุนและสตาร์ทอัพ รวมทั้งผลักดันการเติบโตของ Deep Technology ในภูมิภาค เพื่อสร้าง Synergy ให้กับธุรกิจ เร่งสปีดการทรานส์ฟอร์มองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปพร้อมกันกับนักลงทุนของเรา” น.พ.ศุภชัยกล่าว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP