ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท พลิกโฉมซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์-บางแค รับเทรนด์ศูนย์การค้าที่ต้องเป็นมากกว่าสถานที่ช้อปปิ้ง มั่นใจดึงลูกค้า Gen Z กำลังซื้อสูงเพิ่มขึ้น 20%
ตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทรนด์ศูนย์การค้าในปัจจุบันต้องเป็นมากกว่าสถานที่ช้อปปิ้ง ศูนย์การค้าจึงต้องสร้างความแตกต่างและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
จากโอกาสดังกล่าว บริษัทจึงวางแผนงานระยะเวลา 5 ปี ทุ่มงบประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อใช้ยกระดับซีคอนสแควร์โดยการพัฒนา 5 โครงการ บนพื้นที่ร่วม 100,000 ตารางเมตร เริ่มจากซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ จะปรับ MunMun Srinakarin พื้นที่กว่า 27,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์การค้าด้านศิลปะและงานคราฟต์
รวมถึงปรับพื้นที่ฝั่ง Lotus’s ตั้งแต่ชั้นที่ 1-4 ร่วม 40,000 ตารางเมตร และเปิดตัว MyScape โซนใหม่ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ศูนย์การค้า พร้อมกับปรับโฉมศูนย์อาหาร สวนสนุกโยโย่แลนด์ ซึ่งเป็นสวนสนุกในร่มแห่งเดียวในประเทศไทย เพื่อรองรับกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่
พร้อมกันนี้ยังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกให้ลูกค้าอีก 2 โครงการ คือทางเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จากสถานีสวนหลวง ร.9 เข้าสู่ศูนย์การค้าโดยตรง รวมถึงพัฒนาโครงการอาคารจอดรถแห่งใหม่เพิ่มอีกหนึ่งอาคาร รองรับรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นถึง 2,000 คัน ทำให้ทั้งศูนย์การค้ารองรับรถยนต์ได้ทั้งสิ้นกว่า 10,000 คัน
ส่วนซีคอน บางแค ปรับโฉมพื้นที่ใหม่กว่า 2,000 ตารางเมตร พร้อมเสริมทัพแบรนด์ดัง ทั้งโซนร้านอาหาร แฟชั่น ไอที การศึกษา และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คาดว่าจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขยายฐานลูกค้า สิ่งสำคัญจะมีการสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพผ่านแคมเปญและอีเวนต์ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง
นอกเหนือจากการขยายโครงการต่างๆ แล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ความยั่งยืน โดยได้เดินหน้าต่อโครงการป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทย ควบคู่กับการพัฒนา Health Tech ศูนย์เทคโนสุขภาพดี คลินิกออนไลน์ เปิดให้บริการตรวจสุขภาพ รักษาโรคผ่านเทคโนโลยี เข้าตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้คาดว่าจะทำให้ยอดผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% และสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่โดยเฉพาะ Gen Z และกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
