การแข่งขันแบดมินตันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่มันตินปูล่า สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ประเภทบุคคล รอบชิงชนะเลิศ มีนักตบลูกขนไก่ไทยเข้าชิงฯ 2 ประเภทคือ ชายคู่และหญิงคู่
โดยในประเภทชายคู่ อาร์ท-บดินทร์ อิสสระ และ เอ-มณีพงศ์ จงจิตร คู่มือ 43 ของโลก ดวลกับ อารอน เจี่ย และ ยิค โซห์ วุย คู่มือ 12 ของโลก และคู่มือ 2 ของโลก จากมาเลเซีย ผลปรากฏว่า ทีมตบขนไก่คู่ของไทยพ่ายให้กับคู่ของมาเลเซียไป 1-2 เกม 21-18,15-21 และ 16-21 ส่งผลให้บดินทร์กับมณีพงศ์ ได้เหรียญเงิน
ขณะที่ประเภทหญิงคู่ เบสท์-ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม และ จ๋อมแจ๋ม-ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มือ 36 ของโลก และคู่มือ 4 ของรายการ พบกับ เกรย์เซีย โปลี กับ อาพริยานี่ ราฮายู คู่มือ 8 ของโลก และคู่มือ 1 ของรายการจากอินโดนีเซีย ผลปรากฏว่าครั้งนี้คู่ของไทยแพ้ไป 0-2 เกม 3-21 และ 18-21 ทำให้ ชญานิษฐ์-ผไทมาส ได้เหรียญเงิน
อย่างไรก็ตาม บทสรุปผลงานนักแบดมินตันไทยในซีเกมส์หนนี้ปรากฏว่า ทีมแบดมินตันไทยคว้ามาได้ 8 เหรียญ ประกอบไปด้วย 1 เหรียญทองจากประเภททีมหญิง, 2 เหรียญเงินจากประเภทหญิงคู่ ชญานิษฐ์ กับ ไผทมาส และประเภทชายคู่ บดินทร์ กับ มณีพงศ์, 5 เหรียญทองแดงจากประเภททีมชาย ประเภทชายเดี่ยว กันต์-กันตภณ หวังเจริญ และ โอ๊ต-สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ประเภทหญิงเดี่ยว หมิว-พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ และ แน็ต-ณิชชาอร จินดาพล
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า
“สำหรับ เบสท์ จ๋อมแจ๋ม ในซีเกมส์ครั้งนี้ทำผลงานให้ทีมหญิงได้อย่างยอดเยี่ยมคือเป็นคู่ตัดสิน ทำให้ทีมหญิงคว้าเหรียญทองมาได้ และในประเภทบุคคลยังทำได้ดีต่อเนื่อง สามารถชนะคู่จากมาเลเซียจนเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ คู่อินโดนีเซียคู่นี้มีมาตรฐานการเล่นสูงมาก เล่นได้ดีเยี่ยมสมกับที่ติด 8 อันดับแรกของโลก ไปแข่งขันรายการ ‘เวิลด์ทัวร์ไฟนอล 2019’ ที่ประเทศจีน ขณะนี้เบสท์กับจ๋อมแจ๋ม แสดงให้เห็นในรอบชิงชนะเลิศว่าได้สู้เต็มที่ทุกแต้ม สมกับที่มีธงชาติไทยติดอยู่ที่หน้าอกเสื้อ แม้ในวันนี้ไม่ชนะ แต่ขอให้พยายามและมุ่งมั่นต่อไป
“สำหรับ อาร์ท-เอ แม้จะแพ้ในวันนี้ แต่ในแต่ละรอบที่ผ่านมาทำได้ดีมาก ชนะคู่มือ อันดับ 5 ของโลกจากอินโดนีเซียมาได้ และยังชนะคู่จากมาเลเซียฟันฝ่ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ถือว่าเป็นผลงานดีที่สุดของทั้งคู่ในการแข่งขันประเภทบุคคลในกีฬาซีเกมส์ และน่าจะเป็นแรงผลักดันทั้งคู่ให้กลับไปมุ่งมั่นหมั่นฝึกซ้อม เพื่อลุ้นคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ส่วนตัวคิดว่าด้วยศักยภาพของทั้งเอ-อาร์ท ถ้าทุ่มเทฝึกซ้อมหนักจริงจังจะสามารถทำได้”
นอกจากนี้คุณหญิงปัทมายังกล่าวถึงผลงานโดยรวมในซีเกมส์หนนี้ของทีมแบดมินตันไทยว่า
“ทีมแบดมินตันไทยคว้ามาได้ 8 เหรียญ ประกอบไปด้วย 1 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงินจากประเภทบุคคล, 4 เหรียญทองแดงจากประเภทบุคคล และอีก 1 เหรียญทองแดงจากประเภททีมชาย ครั้งนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องชาวไทย ถือว่าไม่ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ น่าเสียดายที่ไม่สามารถเพิ่มเหรียญทองให้ประเทศไทย
แต่ผลงานแบดมินตันก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และทุกชาติผู้นำด้านแบดมินตันในซีเกมส์ยังคงความแข็งแกร่งเช่นเดิม จะทำงานหนักผลักดันเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างจริงจังต่อไป แม้ว่าเวลานี้ไทยจะมีนักแบดมินตันดาวรุ่งเสริมขึ้นมา ก็ยังต้องรอเวลาอีกสักนิด เพื่อให้พวกเขายกระดับขึ้นมาเรื่อยๆ ในอนาคต จะเห็นว่านักแบดมินตันเยาวชนไทยมีผลงานที่ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะในศึกเยาวชนโลก และในศึกเวิลด์ทัวร์ไฟนอล ก็มีนักแบดมินตันไทยติดอันดับไปแข่งขันแทบทุกปี ทำให้ส่วนตัวมั่นใจว่าวงการแบดมินตันไทยกำลังพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง” คุณหญิงปัทมา กล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
