ช่วงเวลานี้ไม่มีหุ้นตัวใดที่ราคา ‘พุ่งขึ้น’ ร้อนแรงเท่ากับหุ้นของ บมจ.สามารถ ดิจิตอล (SDC) ที่ทะยานขึ้นจนชนเพดานการซื้อขายสูงสุด (ซิลลิ่ง) ถึง 2 วันซ้อน โดยหนึ่งในประเด็นที่ผู้ลงทุนหยิบมาใช้ในการสนับสนุนการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวคือ แผนการเทิร์นอะราวด์ของตัวธุรกิจที่บริษัทเตรียมจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SDC มีคนตระกูลดังร่วมถือหุ้นจำนวนมาก ยิ่งทำให้บรรยากาศการเก็งกำไรเต็มไปด้วยความคึกคัก แม้ว่าบรรดานักวิเคราะห์จะออกมาเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนหุ้นตัวนี้ก็ตาม
ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH ได้ติดต่อขอสัมผู้ภาษณ์ผู้บริหารของ SDC ต่อกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่ง วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สามารถ ดิจิตอล (SDC) ได้กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า บริษัทเตรียมยกเครื่องบริการ Horoworld ให้สามารถตอบสนองและเข้าถึงผู้ใช้บริการในยุคดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดตัว Mobile Application ใหม่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเสริมสร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัทในอนาคต
Horoworld ถือเป็นหนึ่งในบริการที่เคยสร้างรายได้หลักให้กับบริษัทตั้งแต่สมัยยังเป็นสามารถไอโมบาย ซึ่งเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูดวงผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
วัฒน์ชัยกล่าวว่า ในปี 2564 นี้ Horoworld จะปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อมุ่งสู่การเป็น Life Consult ที่ปรึกษาส่วนตัว และพร้อมให้บริการที่เชื่อมโยงกับความเชื่อและโชคชะตาในทุกช่วงเวลา ตั้งแต่เกิดไปจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต ภายใต้คอนเซปต์ ‘HoroWorld One Stop Solution’ ซึ่งบริษัทวางแผนที่จะ Relaunch Brand และเปิดตัวบริการใหม่
“ปัจจุบันคนไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤต ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ หนี้สิน ชีวิตครอบครัว บางครั้งไม่สามารถหาคำตอบหรือระบายให้กับคนใกล้ชิด คนเหล่านี้ต้องการที่ปรึกษาเพื่อหาทางออก การทำบุญสร้างกุศลหรือได้พูดคุย ดูดวงชะตากับนักพยากรณ์ จึงป็นทางเลือกหนึ่งที่หลายๆ คนเลือกใช้ อย่างน้อยก็สร้างความสบายใจได้ แต่ถ้ามองในอีกด้านหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อน แต่ต้องการใครสักคนเพื่อชี้แนะแนวทางในการตัดสินใจ เชื่อว่าหากได้ทำก็รู้สึกสบายใจแล้ว เป็นต้น ดังนั้นธุรกิจในเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา จึงสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ในทุกช่วงเวลา เพราะไม่ว่าคุณจะสุขหรือทุกข์ต่างก็ต้องการมีที่ปรึกษาที่ตัวเองไว้วางใจด้วยกันทั้งนั้น” วัฒน์ชัยกล่าว
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการ Horoworld ถือเป็นการรีฟอร์มธุรกิจบางส่วน เนื่องจาก Horoworld เปิดให้บริการมานานภายใต้ชื่อเดิมคือ บมจ.สามารถไอโมบาย กระทั่งถึงปัจจุบันได้ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 แล้ว โดย Horoworld จะมีศาสตร์การพยากรณ์ให้เลือกกว่า 20 ศาสตร์ ผ่านการทำนายจากนักพยากรณ์ในสังกัดไม่ต่ำกว่า 200 ท่าน ที่สลับหมุนเวียนออนไลน์ในระบบ เพื่อรองรับลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
“การดูดวงในอดีตใช้รูปแบบการดูดวงผ่านระบบโทรศัพท์ หรือระบบ 1900 ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ไม่สามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้ รวมถึงศาสตร์การดูดวงที่จำเป็นต้องเห็นหน้าหรืออ่านลายมือก็เป็นข้อจำกัดในการดูดวง แต่ในโลกยุคดิจิทัลนี้ เทคโนโลยีสามารถช่วยให้การติดต่อสื่อสารและการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทอยู่ในช่วงของการพัฒนา Horoworld Application ที่สามารถนำเสนอบริการที่หลากหลายได้อย่างครบวงจร ตลอดจนการใช้เทคโนโลยี Digital Payment ในการชำระค่าบริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในมุมไหนของโลก เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันก็สามารถเลือกดูดวงกับนักพยากรณ์และศาสตร์ที่ชื่นชอบได้ง่ายๆ แล้ว” วัฒน์ชัยกล่าว
ก่อนหน้านี้ SDC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ถึงพัฒนาการของบริษัทด้วยว่าบริษัทได้ทำสัญญาความร่วมมือพันธมิตร เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบดิจิทัล (Digital Trunked Radio System) กับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบัน บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่ามีความประสงค์เช่าวิทยุคมนาคมระบบดิจิทัลสำหรับใช้งานในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ รวม 9 เขต เป็นระยะเวลา 48 เดือน
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งรายได้ค่าใช้บริการ (Airtime) ของบริษัทในฐานะคู่สัญญาความร่วมมือพันธมิตรครั้งนี้จะมีจำนวนไม่เกิน 186 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยจะได้รับส่วนแบ่งรายได้เป็นรายเดือนตลอดระยะเวลาการใช้งาน 48 เดือน ซึ่งรายได้ค่าใช้บริการจะขึ้นอยู่กับการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์วิทยุคมนาคมของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ และพันธมิตรในสัญญาดังกล่าว
ด้าน สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SDC กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ การปรับธุรกิจของ SDC มาสู่ดิจิทัล คอนเทนต์ และแพลตฟอร์มใหม่ๆ มีความน่าสนใจ และจากพัฒนาการของบริษัทที่มีงานใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง น่าจะทำให้นักลงทุนให้ความสนใจ
“ผมถือหุ้นตัวนี้มานานมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ยังเป็นสามารถไอโมบาย ผมขาดทุนเพราะหุ้นตก แต่ผมก็ยังถือ ลูกชายผมไม่ได้ขายหุ้น 7UP และมาเข้าหุ้นตัวนี้ เพราะเราถือมาก่อนหน้านานแล้ว ตอนนี้ผมซื้อถัวเฉลี่ยจนต้นทุนผมต่ำ ถ้าผมไม่มีเรื่องต้องใช้เงิน ผมก็ถือต่อไปเรื่อยๆ” สมยศกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มพุ่มพันธุ์ม่วงถือหุ้น SDC รวมกันทั้งสิ้น 394.29 ล้านหุ้น (ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2564) แบ่งเป็น
- รชต พุ่มพันธุ์ม่วง 173.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.53%
- ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง 115.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.02%
- สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 105.43 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.93%