วานนี้ (15 มิถุนายน) บุญธิดา พงศะบุตร ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนวัดบุณยประดิษฐ์ กล่าวถึงเรื่องแนวทางในการแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ตามกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบลูกเสือและข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติว่าด้วยการปกครอง หลักสูตรวิชาพิเศษ และเครื่องแบบของเนตรนารี และระเบียบคณะกรรมการบริหารยุวกาชาดว่าด้วยเครื่องแบบยุวกาชาด ที่ได้กำหนดลักษณะเครื่องแบบการแต่งกายของแต่ละประเภทไว้แล้วนั้น
ปัจจุบันโรงเรียนวัดบุณยประดิษฐ์ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ข้อบังคับ และระเบียบดังกล่าว รวมถึงได้ปฏิบัติตามแนวทางการแต่งเครื่องแบบลูกเสือและยุวกาชาดของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครที่ปลัดกรุงเทพมหานครได้แจ้งให้โรงเรียนในสังกัดทราบ และถือเป็นแนวปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
โดยในกรณีที่ผู้เรียนไม่สามารถจัดหาเครื่องแบบได้ ให้ใช้เครื่องแบบนักเรียนประดับเครื่องหมายของแต่ละประเภท สวมผ้าผูกคอและหมวก ได้
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา มีงบประมาณในการแจกชุดลูกเสือให้กับเด็กนักเรียนในสังกัดอยู่แล้ว โดยมอบให้ 1 ปี เว้น 1 ปี เพื่อไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้ปกครอง โดยใช้การผ่อนปรนสำหรับนักเรียนที่ยังไม่ได้รับชุดเครื่องแบบลูกเสือจาก กทม. หรือยังได้ไม่ครบถ้วน
โดยวันที่มีวิชาเรียนอาจให้แต่งกายชุดนักเรียนและสวมผ้าผูกคอเท่านั้น และขอความร่วมมือว่า วันพิธีทางการ เช่น พิธีวางพวงมาลาถวายราชสดุดีและถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามลูกเสือกรุงเทพมหานคร หรือการเข้าค่ายลูกเสือ จะต้องแต่งชุดเต็มยศ
บุญธิดากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กทม. ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการปลูกจิตสำนึกในความมีระเบียบวินัย มีจิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคม และมีความเสียสละ จากกิจกรรมการเรียนวิชาลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด ตามเป้าหมายสำคัญของการเรียนวิชานี้
ด้าน นันทวัฒน์ หมื่นประจญ ครูชำนาญการผู้สอนวิชาลูกเสือ โรงเรียนวัดบุณยประดิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ในปัจจุบันโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครได้ปฏิบัติเรื่องการผ่อนปรนสำหรับนักเรียนที่ยังไม่ได้รับชุดเครื่องแบบลูกเสือไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้รับความร่วมมือจากนักเรียนเป็นอย่างดี
เนื่องจากในกิจกรรมวิชาลูกเสือได้มีการปลูกฝังให้มีความสามัคคี ช่วยเหลือเพื่อน และการอยู่ร่วมกันในกฎเกณฑ์ของสังคม ผ่านกิจกรรมที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกันด้วยความสนุกสนาน เน้นการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งเรื่องเครื่องแบบลูกเสือที่ผ่านมานั้นนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคแต่อย่างใด
เนื่องจาก กทม. มีการสนับสนุนอย่างครบถ้วน แต่สิ่งที่ผู้ปกครองต้องการให้แก้ไขคือ เรื่องของการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนรายหัวของกระทรวงศึกษาธิการที่จัดสรรให้ กทม. เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียนเรื่องเครื่องแบบนักเรียนที่มอบให้ 1 ชุด ประกอบด้วยเสื้อ กางเกง หรือกระโปรง โดยให้ผู้เรียนทุกคนมีเครื่องแบบครบ 1 ชุด และเพิ่มเติมอีก 1 ชุด
โดยเฉพาะผู้เรียนยากจนที่ผู้ปกครองถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีความล่าช้าและได้รับเงินแบ่งเป็นงวดๆ ซึ่งสร้างภาระให้ผู้ปกครองที่ต้องชำระเงินค่าซื้อชุดนักเรียนไปก่อนแล้วค่อยมาเบิกในภายหลัง และได้รับเป็นงวดๆ ไม่ได้เงินเป็นก้อนเดียวตามที่กำหนดไว้ แม้ในปัจจุบันรัฐบาลให้เงินงบอุดหนุนเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดในลักษณะงบประมาณผูกพันต่อเนื่องก็ตาม
