×

SCGP-แนวโน้มกำไร 2Q64 เติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้น และมีรายได้เสริมจากดีล M&P ใหม่

14.07.2021
  • LOADING...
SCGP

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q64 ของ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 27 กรกฎาคม 2564

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น SCGP ปรับตัวขึ้น 14.7%MoM สู่ระดับ 64.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 3.9%MoM สู่ระดับ 1,569.70 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2564)

 

มุมมองระยะสั้น: 

SCBS คาดกำไรปกติ 2Q64 ของ SCGP ที่ 1.95 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%YoY แต่ลดลง 14%QoQ โดยกำไรปกติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ได้รับการสนับสนุนจากยอดขายและอัตรากำไรที่ดีขึ้น และการรับรู้รายได้จากการควบรวมกิจการและเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (M&P) ใน SOVI และ Go-Pak ขณะที่กำไรปกติ 2Q64 ลดลง QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล

 

โดยรายได้ 2Q64 มีแนวโน้มเติบโต 18%YoY ซึ่งเกิดจากปริมาณการขายและราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น รวมถึงรายได้จากดีล M&P ใหม่ๆ (รายได้ที่เติบโต 6%YoY เกิดจาก SOVI ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในเวียดนาม และ Go-Pak ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในเวียดนาม) 

 

ทั้งนี้ ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรมาจากฐานต่ำของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการระบาดของโควิดในประเทศหลักๆ (ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) และมีการรับรู้การเดินเครื่องกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ใหม่ในอินโดนีเซียในเดือนเมษายน 

 

สำหรับราคาขายผลิตภัณฑ์สายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร 2Q64 จะปรับตัวดีขึ้น YoY ตามราคากระดาษในตลาด (Spot Price) ที่เพิ่มขึ้นสู่ 510 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (เพิ่มขึ้น 31%YoY แต่ลดลง 6%QoQ) ซึ่งเกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นและความต้องการบรรจุภัณฑ์ในตลาดภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน สำหรับราคาผลิตภัณฑ์สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ 2Q64 จะปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาเยื่อใยสั้นในตลาดที่เพิ่มขึ้นสู่ 770 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (เพิ่มขึ้น 66%YoY และเพิ่มขึ้น 17%QoQ ) ซึ่งเป็นบวกต่อรายได้จากขายเยื่อกระดาษให้กับลูกค้าภายนอก (~25% ของรายได้จากสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ) 

 

ด้านอัตรากำไรขั้นต้น 2Q64 จะเพิ่มขึ้น 60bps YoY สู่ระดับ 21.9% ซึ่งมาจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่เพิ่มขึ้นตามส่วนต่างราคาบรรจุภัณฑ์ในตลาด (ราคากระดาษลบด้วยต้นทุน RCP) ที่ปรับตัวดีขึ้นสู่ 240 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (เพิ่มขึ้น 8%YoY แต่ลดลง 22%QoQ) เพราะราคากระดาษในตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่าราคา RCP เนื่องจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้นและอุปสงค์ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจเยื่อและกระดาษจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากราคาเยื่อกระดาษที่ดีขึ้น และมียอดขายบรรจุภัณฑ์อาหารที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นหลังควบรวมกิจการ Go-Pak เสร็จสิ้น 

 

นอกจากนี้ SCGP ได้ทำสัญญาซื้อถ่านหินล่วงหน้าไว้แล้วในสัดส่วนมากกว่า 70% ของปริมาณการใช้ถ่านหินทั้งปี 2564 ดังนั้น ผลกระทบด้านต้นทุนพลังงานใน 2Q64 จะอยู่ในระดับจำกัด

 

มุมมองระยะยาว:

สำหรับแนวโน้มกำไรปกติตลอดทั้งปี 2564 ของ SCGP SCBS คาดว่าจะเติบโต 23%YoY สู่ระดับ 8.17 พันล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นจากธุรกิจของบริษัทเองที่ปรับตัวดีขึ้น การขยายกำลังการผลิตในโครงการที่สร้างเสร็จและมีรายได้แล้ว (Brownfield) และกำไรที่เติบโต 7% มาจากดีล M&P (SOVI ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษในประเทศเวียดนาม ในเดือนธันวาคม 2563 และ Go-Pak ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศเวียดนาม ในเดือนมกราคม 2564) 

 

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรปี 2564 ยังไม่ได้รวมกำไรจาก Duy Tan, Intan Group และ Deltalab ซึ่งคาดว่าจะปิดดีลได้ใน 3Q64 และจะเป็นอัปไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2564 ของ SCGP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising