หากจะถามว่าธุรกิจไหนที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้ธุรกิจอื่นๆ หนึ่งในคำตอบย่อมเป็น ‘ซีเนริโอ & เมืองไทยรัชดาลัย’ เพราะต้องปิดโรงละคร ทำให้ไม่สามารถทำการแสดงและหารายได้เข้ามาพยุงธุรกิจได้
ทางด้านของ ‘ซีเนริโอ’ จึงหันมาสู่ธุรกิจการทำคอนเทนต์ออนไลน์ เช่น รายการ เจ๊คิ้มกินรอบวง, ขอข้าวกินหน่อย และ Fake or Not? เป็นต้น
“รายกานต่างๆ ไปได้ดี โดยกว่า 80-90% มียอดวิวทะลุ 1 ล้านวิว ซึ่งในอนาคตมีแพลนที่จะขยายคอนเทนต์ใหม่ 1-2 รายการภายในปีนี้” จิณณวัตร สิริวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด และโรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จากเน็ตไอดอลสู่ ‘ยุคอินฟลูเอ็นเซอร์’ นีลเส็นเผยคนไทยกว่า 75% ให้ความไว้วางใจและเชื่อถือ โดยไทยมีอินฟลูเอ็นเซอร์กว่า 2 ล้านคน
- ‘ถกลเกียรติ วีรวรรณ’ เผย ONEE เล็งปั้น ‘OTT Platform’ เป็นของตัวเอง พร้อมเปิดที่มาการเข้าถือหุ้นของ ‘บี้ สุกฤษฎิ์’
สิ่งสำคัญนอกจากเรื่องรายได้แล้ว การรุกออนไลน์จะทำให้สามารถขยายฐานแฟนคลับไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเชื่อว่าวันหนึ่งหากละครเวทีสามารถกลับมาแสดงได้เมื่อไร ก็จะสามารถดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาชมละครเวทีได้ด้วย
แม่ทัพของซีเนริโอยังเผยถึงทิศทางในการขยายธุรกิจไปสู่การให้บริการงานด้านออร์แกไนซ์ บริหารจัดงานอีเวนต์ งานประชุม งานจัดเลี้ยงบริษัท ด้วยการหางานที่มีสปอนเซอร์ชิปเข้ามาสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่แล้ว 4-5 ราย โดยอีกหนึ่งจุดแข็งที่สำคัญคือ มีพาร์ตเนอร์อย่าง บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ทั้งช่อง one31 และวิทยุเอไทม์ ทำให้สามารถนำเสนอแพ็กเกจในราคาที่สมเหตุสมผลและเน้นความคุ้มค่า
ขณะเดียวกันซีเนริโอได้หันไปทำธุรกิจการบริหารศิลปิน (Scenario The Artist) ในปีนี้มีอินฟลูเอ็นเซอร์ในสังกัดกว่า 30 คน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นกระแสในสื่อโซเชียลมีเดียขณะนี้คือ ทีมหมอหล่อซีเนริโอ ที่ปัจจุบันบางคนเริ่มมีผลงานการแสดงให้ได้ชมกันบ้างแล้ว ส่วนอีกหลายคนก็กำลังจะมีผลงานออกมาให้ได้ติดตามกัน
จากการศึกษาของ Nielsen Trust in Advertising พบว่าคนไทย 75% ให้ความไว้วางใจโฆษณา ความคิดเห็น และการรีวิวผลิตภัณฑ์จากอินฟลูเอ็นเซอร์ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มองว่าอินฟลูเอ็นเซอร์เป็นช่องทางที่เอาไว้ติดตาม อัปเดตเทรนด์และข่าวใหม่ๆ (22%) และยังมองว่าเป็นช่องทางที่ให้ความบันเทิงสูงอีกด้วย (20%)
สำหรับธุรกิจหลักอย่าง ‘ละครเวที’ นั้น ที่ผ่านมามีรายได้หลัก 2 ส่วนคือ จำหน่ายตั๋ว 80% และสปอนเซอร์ชิป 20% ตอนนี้หันมาขยายรายได้จากสปอนเซอร์มากขึ้นผ่านการปรับ Business Model ในรูปแบบ Marketing Solution 360 องศา ซึ่งทำให้รายได้เติบโต 200% แม้จะยังทำแทนรายได้จากการขายตั๋วไม่ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ทำให้รายได้กลับมาที่ 70% แล้ว
นอกจากนี้ยังได้ปั้นแบรนด์ ‘เล่นใหญ่รัชดาลัย’ ซึ่งเป็นละครเวทีสเกลเล็กลงจากเดิม เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นนักเรียนนักศึกษาโดยเฉพาะ โดยปรับราคาบัตรให้เริ่มต้น 500-3,500 บาท จากเดิมบัตรจะอยู่ที่ราว 700-5,000 บาทต่อที่นั่ง
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP