เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้ทำพรีวิวผลประกอบการไตรมาส 2/63 บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 โดย SCC ถือได้ว่าเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่อันดับที่ 5 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้น SCC ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ
กระทบอย่างไร:
ตั้งแต่ไตรมาส 2/63 จนถึงวันนี้ (13 กรกฎาคม) ราคาหุ้น SCC ปรับตัวขึ้น 19.44% สู่ระดับ 387.00 บาท สะท้อนความคาดหวังด้านการฟื้นตัวของผลทิศทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังของปี 2563 ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 21.02% สู่ระดับ 1,362.54 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่า SCC จะรายงานกำไรสุทธิจำนวน 9.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%YoY และเพิ่มขึ้น 35%QoQ โดยในจำนวนนี้จะรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการกู้ยืมเงินสกุลเงินดอลลาร์ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งหากตัดรายการพิเศษนี้ออกไปจะพบว่ามีกำไรปกติไตรมาส 2/63 ที่ 9 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 26%QoQ
โดยกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น QoQ ได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ดีขึ้น จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่กว้างขึ้น และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น QoQ โดยส่วนต่างราคา PE-แนฟทา เพิ่มขึ้น 23%QoQ ตามอุปสงค์สินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนต่างราคา PP-แนฟทา เพิ่มขึ้น 10%QoQ ตามความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ผลประกอบการธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ดีขึ้นสามารถช่วยชดเชยผลประกอบการที่อ่อนแอของธุรกิจปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล
ขณะที่กำไรปกติของ SCC จะทรงตัว YoY ซึ่งเกิดจากผลประกอบการของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้นและธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ค่อนข้างทรงตัว ซึ่งมากพอที่จะชดเชยกำไรที่ลดลงจากธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างได้
ทั้งนี้ต้องติดตามการประกาศผลประกอบการ 2Q63 ของ SCC ซึ่งคาดว่าจะประกาศวันที่ 29 กรกฎาคม 2563
มุมมองระยะยาว:
ด้านแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/63 ของ SCC จะเพิ่มขึ้น YoY แต่ทรงตัว QoQ โดยหลักๆ มาจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ เพราะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับสูง ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับต่ำ ซึ่งจะกดดันให้ต้นทุนแนฟทาต่ำลง รวมถึงทิศทางเงินบาทอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ในระยะยาวต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างสินค้าเคมีภัณฑ์ได้ในอนาคต
ข้อมูลเพิ่มเติม:
สัดส่วนกำไรไตรมาส 1/63 ของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) สามารถแบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก ดังนี้
1. กำไรจากธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง คิดเป็นสัดส่วน 40% ของกำไรไตรมาส 1/63
- กำไรจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ คิดเป็นสัดส่วน 26% ของกำไรไตรมาส 1/63
- กำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ คิดเป็นสัดส่วน 24% ของกำไรไตรมาส 1/63
หมายเหตุ: YoY คือการเปรียบเทียบตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา, QoQ คือการเปรียบเทียบตัวเลขกับไตรมาสที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์