SCBX เผย 4 เทรนด์ AI ที่สำคัญในปีนี้ พร้อมคาดรายได้ปีนี้ 25% จะมาจาก AI ส่วนอีก 2 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็น 50% และ 75% ตามลำดับ พร้อมเร่งเติมพนักงานที่มีทักษะด้าน AI (AI Talent) ให้ถึง 15% หรือราว 4,500 คน
กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX เปิดเผยว่า จากเป้าหมายขององค์กรที่ต้องการมีสัดส่วนรายได้ 75% จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ AI ในปี 2570 สำหรับปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จาก AI จะอยู่ที่ราว 25% ก่อนจะเพิ่มเป็น 50% ในปีหน้า
“สัดส่วนที่ว่านี้จะวัดจากทุกหน่วยธุรกิจที่มี AI เข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจสินเชื่อที่ใช้ AI ในการช่วยคำนวณเครดิต โดยการวัดผลจะวัดตามสัดส่วนที่ AI เข้าไปมีส่วนร่วมกับธุรกิจนั้นๆ”
ทั้งนี้ SCBX ใช้งบประมาณสำหรับวิจัยและพัฒนา AI ราว 3-5% ของกำไรในแต่ละปี ซึ่งใกล้เคียงกับธุรกิจทั่วโลก
อีกส่วนที่สำคัญคือ AI Talent กวีวุฒิ กล่าวว่า ปีนี้ SCBX จัดอบรมและฝึกฝนทักษะ AI ให้พนักงานเกือบจะทั้งหมดแล้ว โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่ม AI Talent ซึ่งไม่ใช่แค่ใช้งาน AI แต่สามารถพัฒนา AI ได้ด้วย
“ตอนนี้เรามีพนักงานกว่า 30,000 คน เรามีเป้าหมาย AI Talent 15% หรือราว 4,500 คน ตอนนี้ยังมีไม่ถึงหลักพันคน” การจะเพิ่มจำนวน AI Talent “ไม่ใช่แค่นำคนข้างนอกเข้ามาเสริม ยังรวมถึงการรีสกิลพนักงานภายในด้วย” กวีวุฒิกล่าว
ปัจจุบัน AI เข้ามาช่วยธุรกิจต่างๆ ทั้งหารายได้ และลดรายจ่าย รวมทั้งการสร้างธุรกิจใหม่ อย่างธุรกิจในเครือ SCBX เช่น MONIX ซึ่งเป็นธุรกิจสินเชื่อ ใช้ AI 100% ในการวิเคราะห์
พร้อมกันนี้ SCBX ได้เปิดตัว AI whitepaper สรุปเทรนด์สำหรับธุรกิจฉบับแรกในไทย ‘SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence’ ซึ่งเป็นเหมือนคู่มือเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็น AI-first Organization เพื่อแบ่งปันวิสัยทัศน์และประสบการณ์จริงในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในบริบททางธุรกิจที่หลากหลาย
โดยรายงาน SCBX AI Outlook 2025 นำเสนอเทรนด์สำคัญ 4 ประการที่กำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่
- Open vs Closed AI: ช่องว่างระหว่าง AI แบบเปิดและแบบปิดที่ลดลง พร้อมนัยสำคัญทางธุรกิจ
- More versatile, Smaller, Smarter AI: ยุคใหม่ของ AI ที่มีขนาดเล็กลง ยืดหยุ่นมากขึ้น และมีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์
- Rise of Agentic AI: การเติบโตของ AI ที่สามารถวางแผน ให้เหตุผล และดำเนินการได้โดยไม่ต้องรับคำสั่งทีละขั้นตอน
- The Road to AGI: ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนา AI ที่มีความสามารถระดับมนุษย์
ในขณะเดียวกัน MIT Sloan Management Review ก็นำเสนอบทความ ‘Five Trends in AI and Data Science for 2025’ โดย Thomas H. Davenport และ Randy Bean ซึ่งมีใจความว่า ‘แนวโน้ม Agentic AI ในปี 2025 สมควรได้รับความสนใจอย่างใกล้ชิดจากผู้นำ’ เน้นย้ำว่า Agentic AI เป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญที่สุดที่ผู้นำองค์กรควรให้ความสนใจในปี 2025
ความแตกต่างสำคัญอีกประการหนึ่งคือวิธีการตอบสนองต่อความไม่แน่นอนหรือข้อมูลใหม่ Gen AI มักต้องการให้มนุษย์ป้อนข้อมูลใหม่หรือปรับคำสั่ง ในขณะที่ Agentic AI สามารถปรับตัวและหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ ได้เองในระดับหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น ในการวางแผนการลงทุน Gen AI อาจสามารถให้คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนตามข้อมูลที่ได้รับ แต่หากตลาดมีความผันผวนหรือมีข่าวสำคัญที่ส่งผลกระทบ มนุษย์จะต้องป้อนข้อมูลใหม่เพื่อให้ได้คำแนะนำที่ปรับปรุงแล้ว ในขณะที่ Agentic AI สามารถติดตามข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ผลกระทบของข่าวสาร และปรับเปลี่ยนคำแนะนำโดยอัตโนมัติ
สำหรับใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลด SCBX AI Outlook 2025 ฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ SCBX