×

กระจายตะกร้าลงทุนในหุ้นทั่วโลกด้วย ‘7 กองทุนรวมดัชนี’ จาก SCBAM

08.10.2021
  • LOADING...

สภาวการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนักตลอดปี 2564 แม้ว่าจะเพิ่งผ่านไปเพียง 9 เดือน แต่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ก็ปรากฏตัวออกมาต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าแต่ละปัจจัยจะจบลงเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่กระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและปัจจัยเสี่ยงรายหุ้น ยกตัวอย่างกรณีล่าสุดคือ วิกฤตหนี้ของ Evergrande มูลค่ากว่า 3.05 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 1.97 ล้านล้านหยวน คิดเป็นสัดส่วน 2% ของ GDP จีน ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาว่าจะล้มละลายและเป็นชนวนไปสู่วิกฤตการเงินทั้งภูมิภาคหรือไม่

 

อีกทั้ง Regulatory Risk ของประเทศจีน ซึ่งกดดันทั้งตลาดหุ้นจีน (A-Share) ฮ่องกง (H-Share) และ ADR (หุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ) ซึ่งก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่าความเสี่ยงนี้จะจบลงเมื่อใด

 

ฟากฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ก็ยังมี Policy Risk ที่คอยกดดันราคาสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์เสี่ยง (ตลาดหุ้น) หรือสินทรัพย์ปลอดภัย ตลอดจนสินทรัพย์ดิจิทัล

 

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงผันผวนท่ามกลางหมอกควันความเสี่ยง ทั้งเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นโยบายเปิดประเทศ การฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างความน่าสนใจเพื่อเรียก FDI รวมถึงความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

 

ความโกลาหลดังกล่าวกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนเป็นอย่างมาก และในบริบทเช่นนี้ โอกาสที่เจอหุ้นห่านทองคำที่ให้ผลตอบแทนตามเป้าหมายนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายผู้ลงทุนอย่างมาก เรียกได้ว่าหากใครประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป หรือประเมินมูลค่าพื้นฐานหุ้นบิดเบี้ยวไป หรือจับจังหวะลงทุนพลาดไป ก็อาจต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ในสภาพการณ์เช่นนี้จะเลือกหุ้นที่ใช่ได้ยาก แต่ก็มีกลยุทธ์ลงทุนที่ช่วยให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวัง หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้ไม่เป็นผู้แพ้ในตลาดหุ้น กลยุทธ์นั้นก็คือการลงทุนในกองทุนรวมดัชนี 

 

กองทุนรวมดัชนี หรือ Index Fund คือกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีกลยุทธ์การบริหารการลงทุนลักษณะเชิงรับ (Passive Management) ที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ประกอบกันเป็นดัชนี โดยพยายามเลียนแบบให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (Benchmark) ให้มากที่สุด

 

สำหรับกองทุนรวมดัชนีในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะลงทุนดัชนีอ้างอิงหุ้น เช่น ดัชนี SET50 Index, SET100 Index หรือดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น ส่วนในต่างประเทศก็สามารถไปลงทุนในดัชนีตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ได้อีกด้วย

 

Index Fund เหมาะกับผู้ลงทุนที่ติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดและเข้าใจภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งผู้ลงทุนที่จับจังหวะการซื้อขายตามภาวะตลาด รวมทั้งยังเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะยาว หรือวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณด้วยวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยสม่ำเสมอ (Dollar Cost Averaging: DCA) เพราะหุ้นเหมาะกับการลงทุนระยะยาว เช่น 10 ปี, 20 ปี เป็นต้น ยิ่งลงทุนนาน ความเสี่ยงจะลดต่ำลงตามไปด้วย ขณะที่ผลตอบแทนจะสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

 

Index Fund มีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิงมากที่สุด จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักลงทุนที่ต้องการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า เนื่องจากค่าธรรมเนียมการจัดการจะต่ำกว่ากองทุนที่บริหารแบบเชิงรุกอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เพราะ Index Fund ไม่ได้นำความรู้ความสามารถของผู้จัดการกองทุนในการคัดเลือกสินทรัพย์เข้ามาเป็นปัจจัยในการสร้างผลการดำเนินงาน รวมถึงกองทุนมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ต่ำกว่า Active Fund อีกด้วย

 

จังหวะเช่นนี้ SCBAM ได้คัดกองทุนรวมดัชนีมาเป็นตัวเลือกให้กับผู้ลงทุนใช้เป็นเครื่องมือลงทุนเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายผลตอบแทนที่วางแผนไว้ ดังนี้

 

1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (ชนิดจ่ายเงินปันผล) หรือ SCBS&P500

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง Overall Rating 3 ดาว จาก MorningStar ประเภท US Equity, ณ 28 กุมภาพันธ์ 2564 มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี S&P 500

 

SCBS&P500 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ กองทุน iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) บริหารโดย BlackRock Fund Advisors

 

2. ​​กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส ดีเจไอ (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBDJI(A)

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี Dow Jones Industrial Average

 

โดย SCBDJI(A) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ SPDR Dow Jones Industrial Average ETF Trust (กองทุนหลัก) บริหารโดย State Street Global Advisors และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

 

3. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (ชนิดจ่ายเงินปันผล) หรือ SCBEUEQ และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBEUEQA

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง ​​มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี STOXX Europe 600

 

SCBEUEQ และ SCBEUEQA จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) คือ iShares STOXX Europe 600 (DE) (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) บริหารงานภายใต้ความดูแลของ BlackRock Asset Management Deutschland AG และลงทุนในสกุลเงินยูโร

 

4. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล) (SCBNK225)

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง Overall Rating 5 ดาว จาก MorningStar ประเภท Thailand Fund Japan Equity, ณ 28 กุมภาพันธ์ 2564 มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี Nikkei 225 Index 

 

SCBNK225 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ NEXT FUNDS Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) ที่บริหารงานภายใต้ความดูแลของ Nomura Asset Management Co.,Ltd.

 

5. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBCHA)

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี CSI 300

 

SCBCHA เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) บริหารงานภายใต้ความดูแลของ China Asset Management (Hong Kong) Limited และลงทุนในสกุลเงินหยวน (RMB)

 

6. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBCEH)

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (H-Share Index)

 

SCBCEH เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ Hang Seng China Enterprises Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (Equity ETF) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง

 

7. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBCE)

ความเสี่ยงระดับ 6 ความเสี่ยงสูง มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (H-Share Index)

 

SCBCE เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศประเภท Exchange Traded Fund (Equity ETF) ได้แก่ Hang Seng China Enterprises Index ETF (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว

 

คำเตือน

  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน รวมถึงควรลงทุนในกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้ 
  • การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
  • สามารถศึกษาข้อมูลกองทุนหลักได้จากเว็บไซต์ของ SCBAM
  • สามารถศึกษารายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมผ่าน SCB EASY App
  • สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2777 7777

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising