SCB WEALTH เปิดจำหน่ายกองทุน SCB Easy 6M1 อายุ 6 เดือน เจาะกลุ่มลูกค้าเวลธ์ เป็นครั้งแรกที่เสนอขายผ่านเฉพาะช่องทาง SCB EASY เท่านั้น ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์นี้ ผลตอบแทนประมาณ 1.35% ต่อปี ตอบโจทย์นักลงทุนรุ่นใหม่ที่นิยมทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ และสอดคล้องกับนโยบาย SCB WEALTH ที่มุ่งพัฒนาสู่ Digital Wealth เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าเวลธ์สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ด้วยตนเอง กับอีกหนึ่งทางเลือกของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการลงทุนในทุกภาวะตลาด
ศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ SCB WEALTH มีนโยบายมุ่งพัฒนาสู่ Digital Wealth ให้กับกลุ่มลูกค้าเวลธ์ (High Net Worth) ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่นิยมการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยตนเอง ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และนับเป็นครั้งแรกที่เปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการ (เทอมฟันด์) ดิจิทัล ภายใต้ชื่อ กองทุนเปิด SCB Easy 6M1 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (SCBEZ6M1) โดยเปิดจำหน่ายผ่านเฉพาะช่องทางแอปพลิเคชัน SCB EASY เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น อายุโครงการ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2566 เงินลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาท เพื่อมอบความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ให้แก่กลุ่มลูกค้าเวลธ์ ให้สามารถทำรายการได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ
กองทุน SCBEZ6M1 อยู่ภายใต้การบริหารและจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) นโยบายเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และ/หรือตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจ, ตราสารหนี้สถาบันการเงิน, ตราสารหนี้ภาคเอกชน รวมถึงตราสารหนี้อื่นใดที่เสนอขายในต่างประเทศ, เงินฝากต่างประเทศ และมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี Net Exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
สำหรับสินทรัพย์ที่คาดว่ากองทุนจะลงทุน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร China Construction Bank, เงินฝากธนาคาร Qatar National Bank, เงินฝากธนาคาร Doha Bank, เงินฝากธนาคาร Commercial Bank of Qatar, บัตรเงินฝาก The Saudi National Bank, Singapore Branch และตั๋วแลกเงิน บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1.35% ต่อปี
ศรชัยกล่าวว่า ธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลกส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยช้าลง แต่ยังปรับขึ้นต่อ และจะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง โดยในส่วนของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์, มีนาคม และพฤษภาคมนี้ โดยจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับ 5.25% ไปจนถึงสิ้นปี หลังจากนั้นคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2567 ด้วยแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงเช่นนี้ จะส่งผลให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นในต่างประเทศอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจทำให้กองทุนเทอมฟันด์มีโอกาสคัดเลือกตราสารหนี้คุณภาพดี ระดับ Investment Grade ให้ได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ด้วยระยะเวลาการลงทุนที่ไม่ยาวเกินไป
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.50% ตามที่ตลาดคาดไว้ โดย SCB CIO คาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงต้นปี จากนั้นจะคงดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 1.75% ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งโดยปกติแล้วหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นมา จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจึงจะปรับขึ้นตาม ดังนั้นการลงทุนในเทอมฟันด์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่มีโอกาสมากกว่าเงินฝากประจำ โดยที่การลงทุนไม่ผันผวนมากนัก เพื่อให้มีกระแสเงินสดรับเข้ามาในช่วงเวลาที่ชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- SCB EIC คาดนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทยปีนี้ ‘ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน’ พร้อมมองความเสี่ยงโลกถดถอยเริ่มลดลงจาก 3 ปัจจัย
- SCB CIO มองเงินบาทสิ้นปีแตะ ‘33-34 บาทต่อดอลลาร์’ แนะนักลงทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
- SCBX โชว์กำไรสุทธิปี 65 จำนวน 3.75 หมื่นล้าน โต 5.5% รับรายได้ดอกเบี้ยพุ่ง ขณะที่ ttb กวาดกำไรทะลุ 1.4 หมื่นล้าน เพิ่มจากปีก่อน 36%