ในทุกๆ วัน เทรนด์ของโลกแห่งการลงทุนและการเงิน เรามักจะพูดกันถึงในแง่มุมกลยุทธ์และแนวโน้มความเป็นไปของตลาด เพื่อที่จะทำให้เป้าหมายและผลลัพธ์ของการลงทุนเป็นที่น่าพอใจของเหล่านักลงทุน อย่างไรก็ตาม หากเราลงทุนในสิ่งที่รักและรู้จักดีอยู่แล้ว การใช้ความสนใจและความหลงใหลส่วนตัวมาเป็นโอกาสในการลงทุนก็จะสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงของสินทรัพย์หลัก และมีโอกาสในการสร้างกำไร สร้างความมั่งคั่งได้อีกด้วย หรือเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนแบบสุขใจกับของรักของสะสม (Passion Investment)
Passion Investment จากความหลงใหลในสิ่งที่รัก…สู่การลงทุนที่งอกเงย
ลลิตภัทร ธรณวิกรัย รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน PRIVATE BANKING ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวในงานสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ SCB PRIVATE BANKING ‘The Passion Investment Exclusive Dinner Talk’ ซึ่งจัดขึ้นสำหรับลูกค้าคนสำคัญเพื่อแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกว่า “Passion Investment หรือการลงทุนในของสะสมที่มีมูลค่าทางใจ ไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยมหรือความฟุ่มเฟือย แต่เป็นการลงทุนที่มีเสน่ห์และสามารถสร้างความงอกเงยทั้งด้านจิตใจและมูลค่าการลงทุนได้อย่างแท้จริง หากผู้ลงทุนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงมีประสบการณ์ในการใช้อินไซต์และความหลงใหลมาเป็นกลยุทธ์ เพื่อวิเคราะห์ถึงคุณค่าและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางมูลค่าของสิ่งนั้นๆ คุณก็สามารถลงทุนเพื่อแสวงหาผลกำไรจากของสะสมนั้นได้”
เติมเต็มความฝันวัยเด็กอันทรงคุณค่าด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน
ขณะที่ กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์จุดเริ่มต้นของการเป็นนักสะสมว่า “ตั้งแต่จำความได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักสะสมมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่แสตมป์ เหรียญ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ พระเครื่อง และงานศิลปะ แต่สิ่งจุดประกายการสะสมอย่างจริงจังคือนาฬิกา เพราะเป็นสินทรัพย์ชิ้นแรกที่สามารถขายทำกำไรได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยของสะสมที่ประทับใจและมีคุณค่าต่อจิตใจมากที่สุด ซึ่งของชิ้นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมูลค่า แต่เป็นสิ่งที่ฝังใจตั้งแต่วัยเด็กที่คุณแม่เคยซื้อให้คือรถบังคับวิทยุ ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจและแรงผลักดันว่า วันหนึ่งเมื่อโตขึ้น ผมจะซื้อรถยนต์ของจริงซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับรถบังคับวิทยุที่คุณแม่เคยซื้อให้เมื่อสมัยเด็ก และสุดท้ายผมสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ เพราะเชื่อว่าเราต้องฝันใหญ่ไว้ก่อน เชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถทำได้ เพราะถ้าเราเชื่อว่าตัวเองทำได้ นั่นแปลว่าเราประสบความสำเร็จกว่า 50% แล้ว ผมมาถึงวันนี้ได้เพราะการเป็น ‘นักสะสม’ ของผมที่ถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่วัยเด็ก เวลาได้สิ่งของที่ตามหาหรือสะสมมาแล้ว ผมจะมีเป้าหมายต่อไปเสมอ เพราะการมองไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิต”
เปิดเส้นทางการเป็นนักสะสมที่หล่อหลอมตัวตนของ ‘กฤษณ์ จันทโนทก’
กฤษณ์เล่าต่อไปว่า “การเป็นนักสะสมที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ได้พบปะผู้คนจากหลายวัฒนธรรม ประสบการณ์ และความคิดความอ่าน ผมเป็นคนที่มีความชอบในของสะสมหลายประเภท แต่มากกว่าการสะสมของในแต่ละประเภทคือประสบการณ์ในการเรียนรู้และ ‘เข้าใจคน’ โดยในแต่ละอุตสาหกรรมหรือวงการ กลุ่มคนก็จะมีโปรไฟล์แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เราสามารถทำความเข้าใจผู้คนที่มาจากหลากหลายพื้นเพและสังคม ทำให้เราเอาใจเขามาใส่ใจเรา และเปิดใจที่จะเข้าใจผู้คนในหมู่กว้าง ทำให้เราสามารถที่จะปฏิสัมพันธ์และเรียนรู้จากคนอื่นๆ ได้ในทุกที่ที่เราเจอ โดยประสบการณ์และองค์ความรู้ตั้งแต่วัยเด็กเหล่านี้ไม่สามารถซื้อได้ในหลักสูตรการเรียน แน่นอนว่าการเป็นนักสะสมในมุมมองของผมไม่ได้เน้นในสิ่งที่มีมูลค่าสูงที่สุด กำไรได้มากสุด หรือมีเยอะที่สุด หรือดีที่สุด แต่ทั้งหมดคือประสบการณ์ที่หล่อหลอมให้ความเป็นตัวของตัวเองชัดเจน ซึ่งผมระลึกถึงความโชคดีที่ผ่านมาในชีวิตเสมอ”
Passion นำ Investment = ความสุข
ดร.ทิศพล นครศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเกี่ยวกับความหลงใหลในรถซูเปอร์คาร์สู่การเป็นนักสะสมตัวยงในวงการรถ “ผมเอา Passion มาอยู่หน้า Investment เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมได้เลยคือ ‘ความสุข’ ผมจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าราคาสิ่งนั้นไปอยู่ที่เท่าไรแล้ว แต่ผมจะทำกราฟสรุปราคาทุกเดือนว่าการลงทุนมีกำไรเท่าไร ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีกำไร มีขาดทุนบ้างในช่วงแรก ดังนั้นสิ่งที่จะเอาเข้ามาในคอลเลกชันคือสิ่งที่ผมรัก แต่มันเป็น Passion บางอย่างที่ตอบได้ยากว่าสิ่งที่เราเอาเข้ามาในคอลเลกชันนั้นจะทำกำไรหรือเปล่า แต่ผมก็มีประสบการณ์ในการดูรถยนต์มาโดยตลอด ซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์เทรนด์ได้ แต่รถยนต์ที่เลือกเก็บจริงๆ คือสิ่งที่ผมอยากจะมองทุกวัน”
คุณค่าที่มากกว่ามูลค่า
ดร.ทิศพล เน้นย้ำว่า “ผมได้สังคมมากมายจากการสะสมรถยนต์ มีตั้งแต่เด็กวัยรุ่นแถวบ้านที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เวลาขับรถไปไหนก็จะมารอเจอ มารอคุย ซึ่งทำให้เราได้สังคมของชาวเยอรมันอีกแบบหนึ่ง รวมถึงมีโอกาสไปขับรถเล่นกับกลุ่มคนรักนาฬิกาที่ประเทศออสเตรียที่นัดไปขับรถเล่นกันอยู่ทุกปี ซึ่งทำให้เน็ตเวิร์กของผมกว้างขวางขึ้น ทั้งหมดนี้หลอมรวมกันทำให้รู้สึกว่าการเก็บรถยนต์ต่างๆ นั้นมีคุณค่าทั้งทางการเงิน ทางจิตใจ และทางสังคมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ มีหลายคนถามผมว่าเมื่อไรจะขายรถยนต์ที่สะสมไว้ ผมคงอยากจะขายตอนที่ราคาสูงที่สุด ซึ่งคงไม่ใช่รุ่นผม โดยวางแผนไว้ว่าจะส่งต่อให้ลูกชายคนโต และคิดว่าเขาจะสามารถบริหารจัดการได้ เพราะผมเองได้เริ่มสอนเขาทั้งในเรื่องรถยนต์และสังคมมาตลอด รวมถึงพาลูกๆ ไปพบเจอเพื่อนเวลาไปขับรถที่ต่างประเทศ ซึ่งก็ทำให้ลูกของเรามีสังคมร่วมกับลูกของพวกเขา ซึ่งผมคิดว่าเรื่องของการมีเน็ตเวิร์กที่กว้างขวางนั้นมีมูลค่ามหาศาลกว่ารถยนต์พวกนี้เยอะ”
จากผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์สู่นักสะสมแอ็กชันฟิกเกอร์ที่สามารถต่อยอดสู่อาชีพที่รัก
ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน จากรายการ 8 Minute History พอดแคสต์ประวัติศาสตร์จาก THE STANDARD PODCAST กล่าวถึงการสะสมโมเดล “ความสุขที่ได้จากการสะสมคือการที่เราได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปสู่อดีต ผมมองว่า Value สามารถตีความให้ได้สองความหมายคือมูลค่ากับคุณค่า ซึ่งจุดเริ่มต้นในการสะสมแอ็กชันฟิกเกอร์ (Action Figure) คือผมชอบและหลงใหลในประวัติศาสตร์มากจนอยากเปิดพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่บ้าน แต่ผมไม่สามารถทำได้ จึงหันมาสะสมแอ็กชันฟิกเกอร์แทน เพื่อเป็นการเติมเต็มความฝันของผม ผมโดนตำหนิบ่อยมากกว่าจะทำไปทำไม เพราะมันเป็นของที่มีคนคุยด้วยจำนวนน้อยมาก จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ค้นพบงานที่ชอบทำมากที่สุดในชีวิตคือการทำพอดแคสต์ประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยม จนเมื่อเร็วๆ นี้ ผมมีโอกาสได้จัดทอล์กโชว์ประวัติศาสตร์รูปแบบ Edutainment เวทีแรกของเมืองไทย ผมรู้สึกว่า Passion หรือความหลงใหลที่มีอยู่ได้ถูกนำมาใช้ ทำให้ทุกวันผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
“สุดท้ายนี้ SCB PRIVATE BANKING เชื่อว่า Passion Investment หรือการลงทุนแบบสุขใจกับของรักของสะสม จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนสะสมของรักที่สามารถช่วยเพิ่มพูนมูลค่าทั้งด้านการลงทุนและคุณค่าทางจิตใจ อีกทั้งยังเป็นการวางแผนการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ที่นอกเหนือไปจากสินทรัพย์พื้นฐาน” ลลิตภัทรกล่าวทิ้งท้าย
