หุ้น 3 แบงก์ใหญ่ กอดคอเปิดบวกกว่า 2% โดย ‘BBL-KBANK’ รายงานกำไรไตรมาส 3/63 ฟื้นจากไตรมาสก่อน ขณะที่ SCB ยังหดตัวจากการตั้งสำรองสูงขึ้น แต่ราคาหุ้นบวกแรงสุด 5% นักวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการช่วยยืนยันการผ่านจุดต่ำสุดของกลุ่มแบงก์
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวยืนแดนบวกได้ทั้ง 11 บริษัท หลังจากเปิดตลาดเช้านี้ (21 ตุลาคม) โดยแบงก์ใหญ่ 3 ราย ได้แก่ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ต่างปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างโดดเด่น
โดย SCB ปรับตัวขึ้นแรงสุด วิ่งแตะ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.31% จากวันก่อนหน้า ขณะที่ BBL วิ่งแตะ 95.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.08% ส่วน KBANK เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 75.25 บาท หรือ 2.73%
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า กลุ่มธนาคารน่าสนใจในเชิงเก็งกำไร แม้งบการเงินกลุ่มธนาคารฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน แต่ยังต่ำกว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะ ธนาคารทหารไทย (TMB), ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เนื่องจากการตั้งสำรองที่สูง อย่างไรก็ตามตัวเลขสำรองลงไปอยู่ในระดับใกล้เคียง ไตรมาส 3/62 แล้ว ประกอบกับฐานทุนที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน คาดการณ์ว่า รายงานทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ที่ใกล้จะรู้ผล น่าจะอนุมัติให้ธนาคารต่างๆ สามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ ทำให้มองว่ากลุ่มธนาคารที่อยู่ในสถานะที่มีการถือครองน้อยเกินไป (Under-Own) มีโอกาสถูกเก็งกำไรในระยะสั้น โดยเราเน้นหุ้นธนาคารใหญ่ที่มีฐานทุนแข็งแกร่ง เช่น BBL และ KBANK รวมถึงธนาคารขนาดกลางที่ปันผลดีอย่าง ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO)
ด้าน บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ต่างรายงานผลประกอบการออกมา สำหรับหุ้นที่แนะนำให้ระมัดระวังคือ SCB หลังจากรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดถึง 27% คาดว่าเป็นผลจากการตั้งสำรองที่ยังอยู่ระดับสูงราว 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อน
ขณะเดียวกันตัวเลข NPL ในไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 3.32% เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ 3.05% มองเป็นภาพที่ไม่ดีเท่าไร เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ที่รายงานออกมาพร้อมๆ กัน ล้วนมีทิศทาง NPL ที่ทรงตัวหรือลดลงจากไตรมาสก่อน
ส่วน BBL กำไรสุทธิต่ำกว่า Bloomberg คาดการณ์เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษ (One Time) ซึ่งหากตัดรายงานดังกล่าว กำไรปกติจะดีกว่า Bloomberg คาดการณ์ ด้านการตั้งสำรองในไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท ลดลง 57% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ NPL ในไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 4.1% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน หลังจากประกาศผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ถือเป็นอีกเครื่องมือยืนยันว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
ผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของ 3 แบงก์ใหญ่
สำหรับ BBL รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/63 มีกำไรสุทธิรวม 4,017.49 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,438.41 ล้านบาท หรือลดลง 5,420.92 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 57.4% อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/63 ถือว่าปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 3,094.98 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 922.51 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 29.8%
ด้าน SCB รายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/63 รวมทั้งสิ้น 4,641 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,798 ล้านบาท หรือลดลง 10,157 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 68.6% โดยเป็นผลจากการตั้งสำรองปกติที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ และเป็นผลจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายการกำไรพิเศษครั้งเดียวจากการขายหุ้นในบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิลดลง 56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ KBANK รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/63 โดยมีกำไรสุทธิรวม 6,678 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,951 ล้านบาท ลดลง 3,273 ล้านบาท หรือลดลง 32.9%
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล