ตลาดหุ้นไทย (SET) พุ่งขึ้นกว่า 10 จุดในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์) จากแรงหนุนสำคัญของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BANK) ที่มีส่วนดันดัชนีราว 3.6 จุด นำโดยหุ้นของ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ที่มีธุรกิจหลักคือธนาคารไทยพาณิชย์
ราคาหุ้น SCB วันนี้กระโดดขึ้นทันทีราว 6% มาอยู่ที่ 110 บาท หลังจากที่บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2566 อีก 7.84 บาทต่อหุ้น ทำให้เงินปันผลรวมทั้งปีอยู่ที่ 10.34 บาทต่อหุ้น เท่ากับว่าปี 2566 SCB จ่ายเงินปันผลออกมามากถึง 80% ของกำไรที่ทำได้
“เป็นปีแรกที่ SCB จ่ายปันผลถึง 80% ของกำไร ทำให้เงินปันผลรวมที่บริษัทจ่ายออกมาทั้งปีสูงกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมาก เดิมทีคาดว่า SCB น่าจะจ่ายปันผลเพียงประมาณ 6 บาท” ธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ SCB จ่ายเงินปันผลได้สูงขึ้นมาก ธนภัทรมองว่าเป็นเพราะการปรับโครงสร้างบริษัทในอดีตที่ผ่านมา
“เดิมที SCB มีบริษัทลูกที่ปล่อยสินเชื่อที่ความเสี่ยงสูงกว่าธุรกิจของแบงก์ เช่น บัตรเครดิต เช่าซื้อ สินเชื่อรายย่อยอื่นๆ เป็นต้น แต่เมื่อดึงบริษัทเหล่านี้ออกไปจากแบงก์ ทำให้ความเสี่ยงโดยรวมลดลง และบริษัทอาจไม่จำเป็นคงเงินสำรอง Tier 1 สูงเท่ากับในอดีต”
ทั้งนี้หากเทียบกับอุตสาหกรรมโดยภาพรวมแล้ว อัตราการจ่ายเงินปันผลจะอยู่ที่ราว 30-40% ของกำไรสุทธิเท่านั้น และในอดีตช่วงที่กำไรของกลุ่มแบงก์ไม่สูงเท่าปีที่ผ่านมา อัตราเงินปันผลตอบแทนจะอยู่ที่ราว 3% แต่ล่าสุดน่าจะเห็นอัตราเงินปันผลตอบแทนของกลุ่มแบงก์ขยับขึ้นอยู่ที่ราว 4%
ธนภัทรประเมินว่าแนวโน้มกำไรของกลุ่มแบงก์ในปีนี้ยังมีโอกาสจะโตได้ 5-6% แม้เทรนด์ดอกเบี้ยจะกลับข้างจากปีก่อน แต่จะเป็นการค่อยๆ ปรับลง ซึ่งหากกำไรโตได้ในระดับนี้ เมื่อเทียบกับราคาหุ้นแบงก์ในระดับปัจจุบันจะทำให้อัตราเงินปันผลตอบแทนขยับขึ้นมาเป็นเกือบ 5% ต่อปี
สำหรับแบงก์อื่นที่ประกาศจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลือของปี 2566 ออกมาแล้วเช่นกันคือ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.055 บาท รวมทั้งปี 0.06 บาท คิดเป็น 31.5% ของกำไรต่อหุ้น
ภาพ: Tetra Images / Getty Images