ธนาคารกลางเวียดนามประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือน เพื่อลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ รักษาเสถียรภาพและปกป้องระบบการธนาคาร ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า GDP ที่โตเกินคาดในปีนี้ทำให้เวียดนามมีพื้นที่พอที่จะขึ้นดอกเบี้ย
วันนี้ (25 ตุลาคม) ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ระบุในแถลงการณ์ว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Refinancing Rate) เป็น 6.0% และ Discount Rate เป็น 4.5% โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- S&P เผยกรณีแบงก์ SCB ใน เวียดนาม เกิด Bank Run กระทบอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ ‘จำกัด
- แบงก์ เวียดนาม โกลาหล! ลูกค้าแห่ถอนเงินหลังกรรมการบอร์ดเสียชีวิต จนแบงก์ชาติต้องออกโรงรับรองประกันเงินฝาก
- เบน เบอร์นันเก อดีตประธาน Fed และนักเศรษฐศาสตร์อีก 2 คน คว้ารางวัลโนเบลเศรษฐศาสตร์ปีนี้ จากงานวิจัยด้านธนาคารและวิกฤตทางการเงิน
เวียดนามกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ โดยเงินเฟ้อในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 4.01% จากสิ้นปีก่อน นอกจากนี้ค่าเงินดองของประเทศยังได้รับผลกระทบในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยอ่อนค่าไปแล้ว 9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ธนาคารกลางเวียดนามกล่าวอีกว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกยังคงสูง และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 5 ครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นต่อไปในปีนี้และในปีหน้า ประกอบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศ
เมื่อวันจันทร์ (24 ตุลาคม) ดัชนีหุ้นหลักของเวียดนามแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 และปิดตัวลง 3.3% หลังจากฟื้นตัวเล็กน้อยจากการลดลง 4.1% ก่อนหน้านี้
ธนาคารกลางเวียดนามกล่าวอีกว่า จะติดตามตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินมาตรการและเครื่องมือทางการเงิน ‘อย่างทันท่วงที’ พร้อมระบุว่า ยินดีที่จะเข้าไปแทรกแซงในตลาดการเงินและตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการสภาพคล่องของสถาบันการเงิน
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่เร็วเกินคาดสำหรับปีนี้ได้ให้พื้นที่ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแก่ธนาคารกลางเวียดนาม
ด้านรัฐบาลเวียดนามคาดการณ์ว่า การเติบโตของ GDP ในปีนี้อาจสูงถึง 8% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 6.0-6.5% และเร็วกว่าขยายตัว 2.58% ในปี 2021
อ้างอิง:
