วันนี้ (8 ธันวาคม) พล.อ. สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า ได้ติดตามตั้งแต่เมื่อวาน (7 ธันวาคม) ช่วงเวลา 14:00 น. โดยฝ่ายกัมพูชาได้โจมตีมาทางไทยก่อน
จะเห็นได้ว่าก่อนการโจมตีแต่ละครั้ง กัมพูชาพยายามยั่วยุทุกวิถีทาง และสุดท้ายคงทนไม่ได้ เพราะไทยรู้ว่าแผนการของกัมพูชาต้องการอะไร เมื่อยั่วยุแล้วไทยไม่ตอบโต้หรือไม่ทำอะไรที่เกินกว่ากติกาสากล หรือหลักมนุษยธรรม กัมพูชาทนไม่ได้ก็ยิงเข้ามา ทำให้เกิดความชอบธรรมที่ไทยจะตอบโต้ เพื่อรักษาธิปไตยของไทย
“ผมมั่นใจในพี่น้องทหาร ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เรามีความชอบธรรมที่จะตอบโต้ และมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลารบแล้วเราไม่ขลาด” พล.อ. สวัสดิ์กล่าว
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ไทยและกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพ แต่สุดท้ายยังไม่เป็นผล พล.อ.สวัสดิ์ระบุว่า เรื่องนี้จะต้องสองฝ่าย ไทยได้รักษากติกามาโดยตลอด แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามก็ไม่มีผล การรักษาสันติภาพตามข้อตกลงจะเป็นไปได้ต้องทำตามกันทั้ง
2 ฝ่าย ถ้ากัมพูชามีความเป็นสากลและมีความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ทางไทยกลับไม่ปฏิบัติตาม ก็เกิดความสงบสุขไม่ได้ ที่ผ่านมากัมพูชาก็ใช้วิธียั่วยุฝั่งไทยมาโดยตลอด คิดว่ามีความชัดเจนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นานาประเทศก็ทราบดี
เมื่อถามว่ากังวลสถานการณ์จะลุกลามบานปลายหรือไม่ พล.อ. สวัสดิ์กล่าวว่า ตามนโยบายของไทย เราไม่ต้องการให้สถานการณ์ขยายอยู่แล้ว ในเมื่อแต่เมื่อฝั่งกัมพูชาเปิดมา ไทยก็ต้องทำให้จบโดยเร็ว เพราะหากเวลาเนิ่นนานไปประชาชนจะยิ่งเดือดร้อน
ส่วนเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นกัมพูชาก็จะใช้วิธีการฟ้องเวทีโลก พล.อ. สวัสดิ์ เชื่อว่า เวทีโลกจะเข้าใจในบริบทของกัมพูชาดีพอสมควร เพราะที่ผ่านมากัมพูชาเปรียบเสมือนเด็กงอแง สู้ไม่ได้หรือไม่ได้ดั่งใจ ก็งอแงไปฟ้องแม่ เราก็เห็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร นานาชาติก็คงเห็นเหมือนเรา เราไม่ได้เป็นฝ่ายกระทำรังแกหรือรุกราน นานาชาติต้องเห็นความจริงตรงนี้
สำหรับการประเมินบทบาทของนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์นี้ หลังจากกองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบิน F-16 เข้าไปตอบโต้ โดยยังไม่มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี พล.อ. สวัสดิ์มองว่า เรื่องการป้องกันประเทศ ในช่วงเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรีและฝ่ายความมั่นคง ได้ประชุมกัน เข้าใจว่าตั้งแต่เกิดสถานการณ์เมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม) มีการประสานงานและติดตามสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
“ผมคิดว่าในครั้งนี้เราไม่ได้ล่าช้า การตัดสินใจเด็ดขาดชัดเจน กำลังทางอากาศเราใช้ไปแล้ว แต่อย่างที่บอกเราต้องเป็นสากล เราต้องไม่ไปละเมิดกฎต่างๆ ผมคิดว่ารัฐบาลทำได้รวดเร็ว และสมเหตุสมผล เป็นไปตามขั้นตอน” พล.อ. สวัสดิ์กล่าว
ส่วนความกังวลว่า เหตุการณ์จะไม่ยืดเยื้อไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนมกรามกราคมที่นายกรัฐมนตรีจะยุบสภา พล.อ. สวัสดิ์ย้ำว่า ไม่ต้องการให้ยืดเยื้อ เพราะจะยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนลำบาก โดยเฉพาะประชาชนตามแนวชายแดนที่ต้องอพยพ


