ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD ผนึกออมสินเตรียมเปิดตัวสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเร็วๆ นี้ แถมรายได้จากนายหน้าขายประกันเริ่มรับรู้เต็มสูบ ดันรายได้และพอร์ตลูกหนี้เติบโต 20% ส่วนปี 2563 มีกำไรสุทธิ 4.7 พันล้านบาท เติบโตกว่า 21% พอร์ตลูกหนี้แตะ 4 หมื่นล้าน ขณะที่ NPL ลดเหลือแค่ 3.5% ด้านบอร์ดไฟเขียวชงผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 1.80 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พฤษภาคมนี้
ดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยเร็วๆ นี้ก็จะมีการเปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อ โดยในเบื้องต้นจะเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย
“ปีนี้ SAWAD มีความพร้อมในการรุกธุรกิจมาก ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศน่าจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย หลังจากที่รัฐบาลเตรียมนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน SAWAD ก็พร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กับภาครัฐ”
แผนงานดังกล่าวน่าจะทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2564 ทั้งรายได้และพอร์ตลูกหนี้จะเติบโต 20% โดยปีนี้กลุ่มศรีสวัสดิ์มีความพร้อมสูงในการแข่งขันทุกรูปแบบ เพราะช่วงที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าขายประกัน (โบรกเกอร์) ก็มีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่สูง
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2563 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 4,790.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 862.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.94% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 3,928.75 ล้านบาท
ส่วนรายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2563 ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ดอกเบี้ย 8,166.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 926.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย 7,239.26 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้จาก 39,488.97 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดปี 2562 เป็น 40,954.28 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดปี 2563 ทั้งนี้การเติบโตของพอร์ตลูกหนี้มาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของกลุ่มบริษัท
ขณะที่มีรายได้อื่น 2,826.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 272.93 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 10.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้อื่น 2,554.01 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าประกัน
สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทได้ปรับลดลงจากงวดสิ้นปี 2562 บริษัทมี NPL 3.83% ปรับลดลงมาเหลือ 3.50% สำหรับงวดสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2563 และกำไรสะสม โดยจะจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นมูลค่ารวม 2,472 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราที่จ่ายปันผลต่อหุ้น 1.80 บาท โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD ที่ 5 พฤษภาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
