หม่อง ชิต ตู่ หรือ พ.อ. ซอ ชิต ตู่ ผู้นำกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army: KNA) หรือในชื่อเดิมคือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force: BGF) กลายมาเป็นตัวละครสำคัญที่กำลังถูกจับตามองจากบทบาทความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์และหลอกลวงข้ามชาติ โดยจับมือกลุ่มทุนจีนสีเทาเปิดเขตอิทธิพลในจังหวัดเมียวดี ตรงข้ามจังหวัดตาก ให้กลายเป็นที่ตั้งของ ‘เมืองสแกมเมอร์’ หลายแห่ง รวมถึงชเวโก๊กโก่และเคเคพาร์ก ที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อจากทั่วโลกและสร้างความเสียหายปีละหลายแสนล้านบาท
ชิต ตู่ เกิดในหมู่บ้าน Kyar Inn ในเมือง Hlinebwe รัฐกะเหรี่ยง เดิมทีเป็นผู้บัญชาการกองพันที่ 999 ของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army: DKBA) ซึ่งแยกตัวมาจากกลุ่มกะเหรี่ยง KNU (Karen National Union) และเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทัพเมียนมาในปี 1994
ในปี 2010 DKBA นำโดยชิต ตู่ และ พ.ท. ซอ โมเต ตุน รวมถึง พ.ต. ซอ ติน วิน คนสนิทของชิต ตู่ ตอบรับข้อเรียกร้องของรัฐบาลทหารเมียนมาในขณะนั้น โดยเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น BGF ตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2008 เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาสันติภาพ ทำให้ชิต ตู่ กลายมาเป็นผู้นำ BGF ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งเงินทุน อาวุธ และเสบียงอาหาร จากกองทัพเมียนมา
หลังจากนั้นกลุ่มกะเหรี่ยง BGF พร้อมด้วยทหารเมียนมา เข้าควบคุมพื้นที่แนวชายแดนรัฐกะเหรี่ยงติดกับไทย ซึ่งในช่วง 7-8 ปีก่อนกลุ่ม BGF มีทหารราว 7,000 นาย แบ่งเป็น 13 กองพัน ใน 4 กรม โดยชิต ตู่ เป็นผู้บังคับบัญชากรมทหารที่ 3 ดูแลพื้นที่ตอนเหนือของเมียวดีและเมืองชเวโก๊กโก่ ตรงข้ามกับอำเภอแม่ระมาดและแม่สอดในจังหวัดตากของไทย
จับมือทุนจีนเทาสร้างเมืองสแกมเมอร์
นอกจากตำแหน่งผู้บัญชาการของ BGF ชิต ตู่ ยังเป็นผู้ก่อตั้งและอดีตประธานบริษัท Chit Linn Myaing ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่บริหารโดย BGF และมีโครงการสำคัญๆ มากมายซึ่งได้รับใบอนุญาตพิเศษในรัฐกะเหรี่ยง
ในช่วงรัฐบาลพลเรือนของ ออง ซาน ซูจี ชิต ตู่ ยังได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ให้ดูแลพื้นที่แนวชายแดนติดกับไทย และส่งเสริมให้กลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนพัฒนาเมืองใหม่
โดยในปี 2017 ชิต ตู่ เริ่มจับมือทำข้อตกลงกับบริษัท Yatai International Holding Group ของ เฉอจื้อเจียง ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบอสใหญ่แห่งเมืองสแกมเมอร์ที่ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในไทย เพื่อพัฒนาเมืองใหม่ที่เรียกว่า Yatai New City ในพื้นที่ชเวโก๊กโก่
นอกจากนั้น ชิต ตู่ ยังได้ทำข้อตกลงกับกลุ่มทุนจีนสีเทาอื่นๆ อาทิ บริษัท Dongmei Group ซึ่งนำโดย หวัน ค็อก คอย อดีตหัวหน้ากลุ่มอาชญากร 14K ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเคเคพาร์ก เมืองสแกมเมอร์ใหญ่อันดับ 2
แยกตัวกองทัพ รักษาธุรกิจสีเทา
ที่ผ่านมา ชิต ตู่ มีความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพเมียนมา กระทั่งช่วงเดือนมกราคม ปี 2021 กองทัพเมียนมามีความพยายามกดดันให้ชิต ตู่ และผู้นำระดับสูงคนอื่นๆ ลงจากตำแหน่งผู้บัญชาการ BGF ส่งผลให้เกิดการประท้วง และผู้นำ BGF บางคนยอมลงจากตำแหน่ง แต่ชิต ตู่ ปฏิเสธ
ขณะที่การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่องหลังการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ส่งผลให้ชิต ตู่ ตัดสินใจประกาศแยก BGF จากกองทัพเมียนมาในเดือนมกราคม ปี 2024 โดยไม่รับเงินและเสบียงจากกองทัพ และให้เหตุผลว่าไม่ต้องการต่อสู้กับชาวกะเหรี่ยงด้วยกันเอง
รายงานสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Institute of Peace: USIP) ระบุว่า ชิต ตู่ ใช้บทเรียนจากการล่มสลายของขบวนการสแกมเมอร์ในเขตโกก้าง ทางตอนเหนือของรัฐฉาน และประเมินแนวโน้มของสงครามที่กองทัพเมียนมาเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในระยะหลัง เป็นเหตุผลให้เขาตัดสินใจแยกตัวจากกองทัพ
โดยท่าทีของ BGF ที่ผ่านมาพยายามวางตัวเป็นกลางในสงคราม เพื่อรักษาเขตอิทธิพลของเขาและการทำธุรกิจของกลุ่มทุนจีนสีเทาไม่ให้ถูกกวาดล้าง
ขณะที่ชิต ตู่ และกลุ่ม BGF ยังใช้ประโยชน์จากการสู้รบในเมียนมาที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลบเลี่ยงการควบคุมของกองทัพและขยายพื้นที่ดำเนินธุรกิจของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ
อย่างไรก็ตาม บทบาทของชิต ตู่ และผู้นำ BGF ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ ส่งผลให้หลายประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตรและห้ามการเดินทาง
โดยต้องจับตามองว่าทางการไทยจะมีท่าทีอย่างไร หลังจากที่วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) DSI มีความเคลื่อนไหวเตรียมออกหมายจับชิต ตู่ และกลุ่มทุนจีนสีเทาในคดีค้ามนุษย์
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง: