วันนี้ (27 เมษายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าทางการซาอุดีอาระเบียประกาศยกเลิกโทษประหารชีวิตในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นเยาวชนหรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาอย่างยาวนาน
ทางด้าน Awwad Alawwad ประธานคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่าโทษประหารชีวิตจะไม่บังคับใช้ต่อผู้กระทำผิดที่เป็นเยาวชนอีกต่อไป แต่จะให้ได้รับการกักตัวในสถานพินิจหรือสถานสงเคราะห์สูงสุดไม่เกิน 10 ปีแทน
การแก้ไขข้อกฎหมายดังกล่าวอาจมีส่วนช่วยเยาวชน 6 คนที่ได้รับโทษตัดสินประหารชีวิต หลังจากที่ถูกจับกุมเนื่องจากเข้าร่วมขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลช่วงอาหรับสปริงขณะที่พวกเขาอายุยังไม่ถึง 18 ปี โดยคณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติได้ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐบาลซาอุดีอาระเบียให้เลื่อนการลงโทษออกไปก่อนเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการแก้ไขกฎหมายในท้ายที่สุด
ซาอุดีอาระเบียถือเป็นประเทศที่มีภาพลักษณ์เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และมีอัตราการประหารชีวิตสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก นักโทษจากคดีก่อการร้าย ฆาตกรรม ข่มขืน ปล้นทรัพย์ และค้ายาเสพติด มักได้รับโทษประหารชีวิตแทบทั้งสิ้น ในปี 2019 ที่ผ่านมา ทางการลงโทษประหารชีวิตนักโทษไปอย่างน้อย 187 ราย สูงสุดในรอบกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ปี 1995 ที่มีนักโทษถูกประหารชีวิต 195 ราย
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนปฏิรูปของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่ต้องการพัฒนาประเทศให้เทียบเท่าโลกตะวันตก ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยกเลิกการเฆี่ยนตีและชี้แจงประเด็นการลอบสังหาร จามาล คาช็อกกี นักข่าวที่เคยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของราชวงศ์ภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018
ภาพ: Zohra Bensemra / Reuters
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
