ซาอุดีอาระเบีย ประเทศพี่ใหญ่ในโลกมุสลิมแถบตะวันออกกลาง ส่งสัญญาณเชิงบวกอีกครั้ง หลังปรับโครงสร้างกองทัพและปฏิรูปหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถเข้าทำงานในกองทัพได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นตามวิสัยทัศน์ 2030 ของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS)
โดยเปิดรับสมัครในแถบภูมิภาคริยาด มักกะฮ์ เมดินะห์ และอัลกัซซิม ถึงวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคมนี้ ซึ่งหน้าที่หลักของผู้หญิงในกองทัพอาจจะไม่ใช่การรบโดยตรง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เข้ามาทำงานในหน่วยความมั่นคงของซาอุดีอาระเบียเพิ่มมากขึ้น
ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของกองทัพ 12 ข้อ เช่น จะต้องเป็นพลเมืองซาอุดีอาระเบีย มีอายุ 25-35 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาเป็นอย่างน้อย และจะต้องมีภูมิลำเนาหรือที่พักอาศัยอยู่ภายในภูมิภาคที่จะเข้ารับตำแหน่งภายในกองทัพ
ก่อนหน้านี้สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด ทรงออกกฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าสนามกีฬา เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลได้เป็นครั้งในประวัติศาสตร์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อีกทั้งยังทรงอนุญาตให้ผู้หญิงซาอุฯ สามารถขับรถยนต์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเพิ่มพื้นที่และบทบาทให้กับผู้หญิง แม้จะยังคงมีกฎเกณฑ์ในการเลือกปฏิบัติอยู่มากก็ตาม
กองทัพสหรัฐฯ เอง ก็เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา กองทัพรับทรานส์เข้าทำงานในกองทัพเป็นคนแรก ตามคำสั่งของศาลสหรัฐฯ ที่สนับสนุนให้พื้นที่ด้านความมั่นคงอย่างกองทัพควรเปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงจุดยืนจะไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้ารับตำแหน่งในกองทัพอย่างเด็ดขาด
โดยปกติกองทัพสหรัฐฯ ไม่มีนโยบายเปิดรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศเข้าทำงาน ก่อนที่อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะผลักดันและสนับสนุนในประเด็นนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 เป็นต้นมา
อ้างอิง:
