ราคาหุ้น บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ วานนี้ (9 ตุลาคม) เปิดการซื้อ-ขายที่ระดับ 58.50 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาต่ำสุดของวัน โดยช่วงระหว่างการซื้อ-ขายของวันราคาบวกขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 62.25 บาท ก่อนจะมาปิดการซื้อ-ขายที่ 61.75 บาท บวก 3.25 บาท หรือ 5.56% จากราคาปิดวันก่อนหน้า หลังจาก สารัชถ์ รัตนาวะดี ประกาศรับซื้อหุ้น GULF จากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านดีลควบรวมกับ INTUCH
ยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ GULF ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เกี่ยวกับการจัดให้มีผู้รับซื้อหุ้นของบริษัท จากผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนคัดค้านธุรกรรมการควบบริษัทระหว่าง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GULF ได้แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน และจะดำเนินการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในระหว่างวันที่ 17-30 ตุลาคม 2567 จากเดิมที่กำหนดไว้ในเบื้องต้นว่า จะดำเนินการในช่วงไตรมาส 1/68 เนื่องจากผู้รับซื้อหุ้นมีความพร้อมในการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน และการเปลี่ยนแปลงกำหนดการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกรรมการควบบริษัทตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
โดยผู้รับซื้อหุ้นจะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในราคา 56.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาปิดหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GULF ที่สารัชถ์ประกาศรับซื้อดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าราคาซื้อ-ขายบนกระดานที่ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 61.75 บาท
โดยภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GULF ระบุว่า หากการควบรวมกับ INTUCH แล้วเสร็จ จะทำให้บริษัทใหม่ (NewCo) เป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Company) ที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วยธุรกิจพลังงาน, สื่อสาร, Data Center และท่าเรือ
อย่างไรก็ดี สัดส่วนรายได้หลักของ NewCo จะยังคงเป็นพลังงานประมาณ 80% แต่สัดส่วนรายได้ดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลงมาเหลือประมาณ 50-60% จากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจสื่อสารที่เข้ามาผ่าน AIS
โดยการลงทุนในช่วง 3 ปีข้างหน้า GULF จะยังต้องลงทุนต่อเนื่องในระดับแสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะยังเป็นธุรกิจพลังงาน จากปัจจุบันที่บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วกว่า 1.4 หมื่นเมกะวัตต์
ทั้งนี้ การควบรวมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/68 และคาดว่าหุ้นใหม่ที่เกิดจากการควบรวมน่าจะเข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงต้นเดือนเมษายน 2568