วานนี้ (11 ตุลาคม) สำนักข่าว Kyodo News ของประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า เมืองซัปโปโรประกาศถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 เรียบร้อยแล้ว
คัตสึฮิโระ อากิโมโตะ นายกเทศมนตรีเมืองซัปโปโร พร้อมกับ ยาสุฮิโระ ยามาชิตะ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกญี่ปุ่น หรือ JOC ประกาศเรื่องดังกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงโตเกียว โดยกล่าวว่า พวกเขาตัดสินใจให้ซัปโปโรถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030
ก่อนที่จะมีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ทั้งสองได้พบและพูดคุยกันที่กรุงโตเกียวเพื่อประชุมสรุปการตัดสินใจในช่วงเช้า ก่อนจะมีการแถลงเรื่องนี้ในช่วงบ่ายวานนี้
การตัดสินใจที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการเสนอตัวจัดงานในครั้งนี้ขาดการสนับสนุนจากภาคประชาชนที่สูญเสียความไว้วางใจไปมาก เนื่องจากคดีคอร์รัปชันในโอลิมปิก โตเกียว 2020 หลังจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายรายถูกดำเนินคดีในปีก่อน
เรื่องอื้อฉาวที่แพร่หลายในปีก่อนทำให้ภาพลักษณ์การจัดแข่งขันกีฬาในญี่ปุ่นเสื่อมเสียอย่างมาก ไล่ตั้งแต่คดีที่พนักงานสอบสวนของญี่ปุ่นดำเนินคดีอาญากับ Dentsu บริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และบริษัทเอกชนอีก 5 แห่ง ฐานเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2020
หลังจากนั้นในวันที่ 17 สิงหาคม ฮารุยูกิ ทากาฮาชิ วัย 78 ปี ถูกจับกุมในข้อหารับสินบนเป็นเงิน 51 ล้านเยน จากบริษัท อาโอกิ โฮลดิ้งส์ (Aoki Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องแต่งกายธุรกิจยักษ์ใหญ่ เพื่อตอบแทนการอำนวยความสะดวกในสัญญาสปอนเซอร์โอลิมปิกของบริษัท
การถอนตัวของซัปโปโรทำให้ปัจจุบันเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน กลายเป็นเมืองเดียวที่เสนอเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 และกลายเป็นตัวเต็งที่จะได้จัดการแข่งขันทันที
อ้างอิง: