บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI รายงานผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2568 โดยมีรายได้รวม 23,670 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,029 ล้านบาท
วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน SIRI เปิดเผยว่า แม้ปี 2568 จะเป็นปีที่มีความท้าทายทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่บริษัทยังคงรักษาเสถียรภาพของผลประกอบการไว้ได้
โดยปัจจัยสนับสนุนหลักใน 9 เดือนที่ผ่านมา มาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในช่วง 9 เดือน บริษัทยังสามารถปิดการขาย (Sold Out) โครงการได้รวม 19 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท
แสนสิริคาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2568 จะเป็นไตรมาสที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของปี ทั้งในแง่ของยอดโอนและยอดรับรู้รายได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน
ณ ปัจจุบัน (ต้นไตรมาส 4) บริษัทมียอดขายสะสมแล้ว 6,000 ล้านบาท และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาสสุดท้ายอีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท โดยเน้นโครงการอย่าง เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต และคอนโดมิเนียมใหม่ในภูเก็ต เพื่อรองรับตลาดเมืองท่องเที่ยว
นอกจากนี้ บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่รวม 7 โครงการ มูลค่า 9,600 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้ในไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะโครงการในหัวเมืองหลักอย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ที่มียอดขายเฉลี่ยสูงกว่า 70% แล้ว
วิชาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทยังสามารถทำยอดขายจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดได้กว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการซื้อจริง (Real Demand) ของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อยังคงมีอยู่อย่างแข็งแกร่ง
สำหรับยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ไปจนถึงปี 2571


