อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนมาตรการระยะเร่งด่วนและระยะยาวในการทำธุรกิจ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนร่วมทางธุรกิจแบบองค์รวม ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมบรรเทาปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
มาตรการที่สำคัญคือ มาตรการสำหรับระยะระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเริ่มต้นแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้รับผิดชอบโครงการจะตรวจสอบคุณภาพเครื่องวัดฝุ่นที่ติดตั้งอยู่แล้วในไซต์ก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) เพื่อควบคุมและลดอัตราการกระจายฝุ่นภายในไซต์ก่อสร้างให้อยู่ในระดับมาตรฐาน โดยครอบคลุมกว่า 20 โครงการแนวสูงในขณะนี้ ปัจจุบันแสนสิริจะใช้วัสดุพรีคาสท์เป็นวัสดุในการก่อสร้างหลัก เชื่อว่าจะเกิดฝุ่นละอองน้อยกว่ารูปแบบอื่น
สำหรับโครงการแนวราบจะเพิ่มความถี่ในการฉีดพ่นน้ำบนถนนทั้งทางเดินและทางรถในโครงการเพื่อดักจับฝุ่นให้รวมตัวก่อนกวาดถนน ล้างถนนส่วนที่ใช้สำหรับการขนส่งวัสดุก่อสร้างและล้างล้อรถก่อนออกจากโครงการทุกครั้ง ส่วนโครงการแนวสูงจะติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำระบบพ่นหมอกในทุกโครงการ โดยเพิ่มความถี่สูงในการพ่นละอองน้ำทุกชั่วโมงในทุกวัน ชั่วโมงละ 45 นาที และพัก 15 นาที นอกจากนี้จะจัด Big Cleaning Day เพื่อทำความสะอาดไซต์ก่อสร้างทุกสัปดาห์ด้วย
นอกจากนี้ยังมีมาตรการสำหรับระยะการอยู่อาศัย โดยติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำระบบพ่นหมอกบนอาคารสูงที่อยู่ภายใต้การดูแลกว่า 57 โครงการ รวม 89 อาคาร นอกจากนี้ยังลดระยะเวลาทดสอบระบบการทำงานภายในโครงการที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจากปกติสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที เป็น 2 สัปดาห์ต่อครั้ง
ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมของภาคธุรกิจบางส่วนที่พยายามหาทางในการแก้ไขปัญหาจากผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ที่รบกวนการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดสำคัญของไทย หลังจากที่ทางการออกมาชี้แจงว่าต้นตอของวิกฤตฝุ่นควันนี้ไม่เพียงมาจากเครื่องการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น แต่ยังมาจากการก่อสร้างที่ผุดขึ้นทั่วเมืองจากเมกะโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและการพัฒนาโครงการของภาคธุรกิจด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)