2 ยักษ์บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยอย่าง แสนสิริ และ เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2567 ที่แข็งแกร่ง โดยทั้งสองบริษัทมียอดขายและกำไรเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โกยรวมกัน 6.7 หมื่นล้านบาท ท่ามกลางความท้าทายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีอยู่รอบด้าน
วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายรวม 6 เดือนแรกอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 48% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 5.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2.7 พันล้านบาท โดยกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก (Core Profit) เติบโตขึ้น 5% จากปีก่อน
วิชาญกล่าวว่า ความสำเร็จในครึ่งปีแรกมาจากการขายหมด (Sold Out) 19 โครงการ มูลค่ารวม 1.52 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีที่เติบโตแข็งแกร่ง
ด้าน วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีรายได้รวม 6 เดือนแรกอยู่ที่ 21,130 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,277 ล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาส 2 มีรายได้ 11,561 ล้านบาท เติบโต 20.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และกำไรสุทธิ 1,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.8%
วิทการระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการเติบโตมาจากรายได้จากการขายและโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะจากพอร์ตคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ที่เติบโตมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โครงการที่ได้รับการตอบรับโดดเด่น ได้แก่ The Address สยาม-ราชเทวี, Aspire รัชโยธิน และ Aspire เอราวัณ ไพร์ม นอกจากนี้พอร์ตสินค้าแนวราบ ทั้งบ้านแฝด ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ก็ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนครึ่งปีหลัง แสนสิริเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ มูลค่ารวม 3.87 หมื่นล้านบาท โดยไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ ณริณสิริ แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม และ เมเบิล บ้านทาวน์โฮมราคาเริ่มต้น 6-8 ล้านบาท รวมถึงการเปิดตัวคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพในย่าน CBD บนถนนสุขุมวิท และโครงการใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต
ส่วนเอพี (ไทยแลนด์) วางแผนเปิด 25 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 27,440 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม 10 โครงการ มูลค่า 8,190 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 11,350 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 4,700 ล้านบาท และโครงการต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท
ทั้งสองบริษัทยังคงมั่นใจว่าผลประกอบการทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยแสนสิริคาดว่าจะมียูนิตพร้อมขายทั่วประเทศรวมมูลค่า 127,000 ล้านบาท ขณะที่เอพี (ไทยแลนด์) จะมีโครงการพร้อมขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากกว่า 202 โครงการ มูลค่ากว่า 151,411 ล้านบาท
