‘แสนสิริ’ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 มีรายได้รวม 10,170 ล้านบาท เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,315 ล้านบาท ผลงานที่เติบโตสะท้อนความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริแม้ตลาดจะมีการแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งนี้ รายได้หลักของบริษัทมาจากการขายโครงการอสังหาที่เพิ่มขึ้นถึง 32% เป็น 8,901 ล้านบาท ทั้งจากแนวราบและคอนโดมิเนียม อาทิ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย, เศรษฐสิริ, อณาสิริ เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากคอนโดใหม่อย่าง เอ็กซ์ที พญาไท, เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น, เนีย บาย แสนสิริ เป็นต้น
วิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาไตรมาส 2 คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมได้
โดยแสนสิริก็เดินหน้ากลยุทธ์ยกระดับคุณภาพสินค้าและพัฒนาการตลาดต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขายให้กระจายทำเลเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ในไตรมาส 2 แสนสิริมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 7,800 ล้านบาท
โดยมีไฮไลต์คือแบรนด์แนวราบใหม่ ELSE (เอลซ์) และแบรนด์คอนโดใหม่ PYNN (พินน์) ที่เตรียมเปิดตัวโครงการแรก PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) ในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับโครงการต่างๆ ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา